เซลติมา เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์แอ็กเซเลนซ์(R) ของบีเอเอสเอฟซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่ให้ประโยชน์นอกเหนือจากการปกป้องพืช ในส่วนของเซลติมา ประโยชน์ยังรวมไปถึงรูปลักษณ์ของพืชที่ดีขึ้น พืชแข็งแรงและทนต่อความเครียดได้มากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับไนโตรเจน ผลลัพธ์ที่ได้คือชาวนาที่ใช้เซลติมา จะได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นและคุณภาพเมล็ดข้าวที่สูงขึ้น
มีคู่ค้าทางธุรกิจที่สำคัญและชาวนามากกว่า 200 คนเข้าร่วมงานเปิดตัวในวันนี้ "เรารู้ว่าชาวนามีงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นั่นคือ ปลูกพืชที่มีสารอาหาร ดีต่อสุขภาพและปลอดภัยมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของประชากรโลกที่เพิ่มมากขึ้น" คุณเพทรูซ อึ้ง กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทบีเอเอสเอฟในประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา ลาวและเมียนมาร์ กล่าว "บีเอเอสเอฟมีความมุ่งมั่นในการให้ความช่วยเหลือแก่ชาวนาในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งโซลูชันเช่น เซลติมา ช่วยให้ชาวนาได้ผลผลิตที่ดีขึ้นซึ่งช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้นในท้ายที่สุด วันนี้ชาวนาในประเทศไทยได้เข้าร่วมกับเกษตรกรในประเทศจีน อินเดีย อินโดนีเซียและเวียดนาม ที่กำลังได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมทางเทคโนโลยีนี้"
บีเอเอสเอฟมีเป้าหมายที่จะส่งมอบนวัตกรรมที่สามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวนาไทย สารป้องกันกำจัดโรคพืช เซลติมา เป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ล่าสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯที่กำลังเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นโซลูชันให้แก่ชาวนาไทย ซึ่งได้รวมถึงสารกำจัดวัชพืชทีทริส สำหรับหญ้าวัชพืช สารกำจัดวัชพืชบาสต้าสำหรับใช้ควบคุมข้าววัชพืชและสารกำจัดแมลงเลอแซ็ค 3จี สำหรับหนอนกอข้าว เพลี้ยไฟ และหนอนม้วนใบ
เกี่ยวกับแผนกธุรกิจโซลูชันส์การเกษตร ของ บีเอเอสเอฟ
เนื่องจากประชากรโลกมีจำนวนเพิ่มขึ้น โลกจึงต้องใช้ความสามารถในการพัฒนาและสร้างเกษตรกรรมที่ยั่งยืนและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น เรามีภารกิจในการทำงานร่วมกับเกษตรกร ผู้ทำงานด้านเกษตรกรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการแมลงและบุคลากรอื่นๆเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ข้างต้น นี่เป็นเหตุผลที่เราลงทุนอย่างมากในด้านการวิจัยและการพัฒนาและขยายสายงานอย่างกว้างขวางซึ่งรวมถึงการพัฒนาเมล็ดและคุณสมบัติสายพันธุ์ การใช้เทคโนโลยีเคมีและชีวภาพเพื่อปกป้องพืช การจัดการดิน ความแข็งแรงของพืช การควบคุมสัตว์ที่เป็นศัตรูพืชและการเกษตรดิจิทัล ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราในห้องแลป พื้นที่เพาะปลูก สำนักงาน และสายงานการผลิตเชื่อมโยงแนวคิดใหม่เข้ากับการปฏิบัติเพื่อสร้างแนวคิดที่นำมาใช้ได้จริง สำหรับเกษตรกร, ชุมชนและโลก ในปี 2561 แผนกธุรกิจของเรามียอดขายจำนวน 6.2 พันล้านยูโร สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.agriculture.basf.com หรือช่องทางโซเชียลมีเดียของเรา
เกี่ยวกับบีเอเอสเอฟในประเทศไทย
บีเอเอสเอฟดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 50 ปี โดยมีพนักงานจำนวน 632 คน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 และนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้แก่ผลิตภัณฑ์โซลูชั่นส์การเกษตร เคมียานยนต์ เคมีเพื่อสุขภาพและโภชนาการ เคมีก่อสร้าง และ แพคเกจจิ้ง ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ และโรงงานผลิตในอีก 3 จังหวัดทั่วประเทศ ตลอดจนศูนย์ปฏิบัติการวิจัยสำหรับสีพ่นเคลือบและโพลียูรีเธนส์ที่จังหวัดสมุทรปราการ บีเอเอสเอฟมียอดขายในประเทศไทย 514 ล้านยูโรในปี 2561 ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบีเอเอสเอฟในประเทศไทยได้ที่เว็บไซต์ www.basf.com/th/