นางชุติภา กลิ่นสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าหุ้น VL ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างแน่นอน
สำหรับผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/62 โดยบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23.42 ล้านบาท เติบโต 63.52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14.33 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการให้บริการในประเทศที่เติบโตสูงขึ้น ประกอบกับบริษัทสามารถการบริหารจัดการต้นทุนให้มีสัดส่วนที่น้อยลง และค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
อีกทั้งบริษัทยังมีรายได้จากการให้บริการรวมอยู่ที่ 185.73 ล้านบาท เติบโต 10.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้จากการให้บริการรวมอยู่ที่ 168.73 ล้านบาท แบ่งเป็น จากการให้บริการในประเทศอยู่ที่ 141.19 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีรายได้จากการให้บริการต่างประเทศอยู่ที่ 42.32 ล้านบาท และรายได้จากการให้บริการอื่นอยู่ที่ 2.22 ล้านบาท
"คาดว่าการเข้าเทรดในวันที่ 21 พ.ค. เราคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง โดยงบไตรมาส 1/62 เราออกมาค่อนข้างดีมาก ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ
พร้อมกันนี้รายได้จากการให้บริการในประเทศยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 141.19 ล้านบาท เติบโต 14.83% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เพราะว่าเรามีการลงทุนซื้อเรือ วี.แอล.20 ที่มีความสามารถในการขนส่ง 5,439 ลูกบาศก์เมตรต่อเที่ยว เพื่อเริ่มให้บริการขนส่งน้ำมันดิบในไตรมาส 4/61 ทำให้บริษัทมีรายได้จากการขนส่งน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 61.34%" นางชุติภา กล่าว
ขณะที่นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัทในเครือของบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น (Lead Underwriter) ของบริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ VL กล่าวอีกว่า การเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 21 พฤษภาคม 2562 คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 7-9 พฤษภาคม 2562 เนื่องจากราคาหุ้นที่เสนอขายมีความเหมาะสมกับพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และสอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจ โดย VL มีการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 280 ล้านหุ้น อยู่ที่ราคาหุ้นละ 1.75 บาท
สำหรับแผนการระดมทุนในการเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้ เพื่อลงทุนขยายกองเรือ โดยการลงทุนซื้อเรือดังกล่าวคาดว่าจะเป็นการต่อเรือใหม่ หรือการซื้อเรือมือสองเพื่อนำมาให้บริการ อย่างไรก็ตามยังต้องพิจารณาสถานการณ์ และสภาวะตลาดในขณะนั้นควบคู่ไปด้วย เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งรวมต่อปี ทั้งจากการเพิ่มปริมาณขนาดบรรจุขนส่งต่อเที่ยวเรือและเพิ่มจำนวนเที่ยวเรือ นอกจากนี้ยังนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปซ่อมบำรุงตามแผน รวมถึงชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
"เรามองว่าการเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน หลังจากที่ผ่านมาเราโรดโชว์ให้กับนักลงทุน และเชื่อมั่นว่านักลงทุนจะเข้าใจพื้นฐานธุรกิจ ซึ่ง VL ยังมีแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจน ได้แก่ การต่อเรือใหม่ หรือการซื้อเรือมือสอง เพื่อเพิ่มความสามารถให้บริการ พร้อมทั้งยังมองหาเส้นทางการเดินเรือใหม่ เพื่อเพิ่มการให้บริการที่มากขึ้น และเป็นการสนับสนุนผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง" นายเอกจักร กล่าว