นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบไฟฟ้า งานวิศวกรรมระบบสาธารณูปโภค และเครื่องกลแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯในงวดไตรมาส 1/2562 (1 ม.ค.- 31 มี.ค.62) บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการ 134.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 101.45 ล้านบาท โดยรายได้จากการให้บริการของบริษัทฯมาจากการรับรู้รายได้งานอาคารสูง งานแนวราบซึ่งเป็นงานห้างสรรพสินค้า และงานปรับปรุงงานเพิ่มอื่นๆ รวมถึงงาน Data Center ทำให้บริษัทฯทยอยรับรู้รายได้จากการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิ 13.37 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 19.52 ล้านบาท ลดลง 6.15 ล้านบาท หรือลดลง 31.49% เนื่องจากบริษัทได้รับโครงการใหม่ ซึ่งทางบริษัทอยู่ในช่วงศึกษาโครงการทำให้ต้นทุนบริการเพิ่มขึ้น หากเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักที่ต้นทุนบริการเพิ่มขึ้น เกิดจากต้นทุนวัสดุและค่าแรงที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น มีการลงทุนเครื่องมือเครื่องใช้ในโครงการ ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากการที่บริษัทมีการพัฒนาความรู้ความสามารถพนักงานให้มีความชำนาญในโครงการดังกล่าว และเพื่อรองรับงานใหม่ในอนาคต
จากแรงหนุนของ ความชัดเจนในมาตรการพยุงเศรษฐกิจ ของกระทรวงการคลัง รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในด้านการคมนาคมครบทุกด้านที่มีทิศทางที่ชัดเจน ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร รวมถึงการคมนาคมทางน้ำและอากาศ ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจทันที ส่งผลให้ภาคเอกชนรับผลดีจากตลาดที่อยู่อาศัย และ ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีแผนขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงซ่อมแซม และขยายตัวไปยังพื้นที่เขตภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้น ล้วนเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัททั้งสิ้น ย้ำบริษัทมีศักยภาพพร้อมลุยประมูลงานใหม่ๆ เพิ่ม และพร้อมทั้งเล็งขยายธุรกิจเพิ่มรายได้ให้เติบโตแข็งแกร่ง ปัจจุบันตุนงานในมืออยู่ราว 450 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ปีนี้ทั้งหมด
"อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าจากมาตรการพยุงเศรษฐกิจ ของกระทรวงการคลัง รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในด้านการคมนาคมจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และการลงทุนในประเทศ และส่งผลดีต่อ FLOYD ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาติดตั้งงานวางระบบครบวงจร ที่ได้รับการยอมรับทั้งในเรื่องคุณภาพงานและการบริการที่รวดเร็ว ด้วยทีมงานวิศวกรที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในธุรกิจ ส่วนแผนการเข้าประมูลงานใหม่ในปีนี้ บริษัทยังคงเน้นการรักษากลุ่มลูกค้าเก่าด้วยคุณภาพและราคาพึงพอใจ พร้อมทั้งเน้นเปิดตลาดกลุ่ม Data Center ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และโครงการผลักดันอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของภาครัฐ ที่ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้เติบโตแบบก้าวกระโดด FLOYD จึงเห็นเป็นโอกาสในการใช้ความเชี่ยวชาญในการรับเหมางานติดตั้งงานระบบเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า นอกจากนั้นบริษัทยังคงมีแผนเดินหน้าเปิดตลาดในกลุ่มอื่นๆ อาทิ โรงพยาบาล โรงงาน เป็นต้น รวมถึงพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และเร่งสร้างศูนย์อบรมตามวัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ได้จาก IPO ซึ่งกันเงินประมาณ 80 ล้านบาท ขณะนี้หาผู้รับเหมาในการก่อสร้างได้แล้ว และเริ่มก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นปีหน้า" นายทศพร กล่าว
แนวโน้มผลงานในปี 2562 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตราว 10-15% คาดว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศหากมีความชัดเจนในมาตรการพยุงเศรษฐกิจ ของกระทรวงการคลัง รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในด้านการคมนาคม ส่งผลให้ผู้ประกอบการเอกชนมีความมั่นใจในการลงทุน ซึ่งจะทำให้ปีนี้มีงานประมูลโครงการใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น ทั้งงานโครงสร้างพื้นฐาน Data Center อาคารที่พักอาศัย และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น โดย FLOYD มีความพร้อมที่จะเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการยื่นประมูลงานจากลูกค้าเดิมที่มีการขยายโครงการใหม่ๆ เพื่อสะสมงานในมือ (Backlog) เข้ามาเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 450 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้