โดยภายในงาน THAIFEX – World of Food Asia 2019 ได้แบ่งสินค้าที่จัดแสดงออกเป็น 11 ประเภท ได้แก่ อาหารสำเร็จรูป นำเสนอทางเลือกที่หลากหลายของอาหารสำเร็จรูป ร้านอาหาร และผลิตภัณฑ์อาหารขั้นพื้นฐาน, เครื่องดื่ม ทั้งที่ไม่มีแอลกอฮอล์และมีแอลกอฮอล์, ขนมและของขบเคี้ยว นำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่หลากหลายตามเทรนด์ล่าสุด, อาหารทะเล นำเสนอโอกาสในการหาแหล่งธุรกิจที่กว้างขวางขึ้นเนื่องจากความต้องการอาหารทะเลทั่วโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้น, เนื้อสัตว์ ครอบคลุมเทรนด์ของเนื้อสัตว์ ไส้กรอก และสัตว์ปีก, อาหารแช่แข็ง มุ่งเน้นไปที่กลุ่มอาหารสะดวกซื้อและอาหารพร้อมรับประทาน, ข้าวและธัญพืช แนะนำทางเลือกใหม่ที่มีความหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค, ผักและผลไม้ นำเสนอผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและอาหารออร์แกนิคเพื่อตอบสนองความต้องการอาหารปลอดภัยและความยั่งยืนของโลก, กาแฟและชา แสดงสินค้าครบวงจรตั้งแต่เมล็ดกาแฟจนถึงอุปกรณ์ทำกาแฟและใบชาสู่ถ้วยชา, ธุรกิจบริการด้านอาหาร รวบรวมทุกภาคส่วนของการบริการด้านอาหาร ร้านอาหาร แนวคิดการบริการที่รวดเร็ว และอุตสาหกรรมการจัดเลี้ยง และ เทคโนโลยีด้านอาหาร นำเสนอสินค้าอุปกรณ์แปรรูปอาหารและบรรจุภัณฑ์เพื่อช่วยให้ธุรกิจตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค
"กรมฯ ได้มีการเน้นให้นำนวัตกรรมรูปแบบต่างๆ มาช่วยสนับสนุนธุรกิจการเกษตร อาหารและเครื่องดื่มซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล นอกจากจะได้พบกับผู้ประกอบการอาหารและเครื่องดื่มครบทุกประเภทในงานเดียวแล้ว กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ยังมีบริการที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ร่วมงาน อาทิ DITP Logistics Pavilion ที่ให้บริการด้านโลจิสติกส์ครบวงจรทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยกลุ่มผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ของไทย เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าสำหรับผู้จัดแสดงสินค้าและผู้ซื้อ และ DITP Service Center ที่ให้บริการข้อมูล และคำปรึกษาด้านการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ ทั้งการสัมมนา การประกวดแข่งขัน และนิทรรศการให้ความรู้ที่จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม" นางสาวบรรจงจิตต์ กล่าว
สำหรับงาน THAIFEX - World of Food Asia 2019 จะจัดขึ้นที่ IMPACT Challenger Hall 1-3 และ IMPACT EXHIBITION Hall 5-12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยวันที่ 28–31 พฤษภาคม เวลา 10.00 – 18.00 น. เป็นวันเจรจาธุรกิจ ส่วนวันที่ 1 มิถุนายน เวลา 10.00 – 20.00 น. เป็นวันเจรจาธุรกิจและจำหน่ายปลีก