นายสุชาติ จันทรานาคราช รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานคณะกรรมการสายงานแรงงาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ในปัจจุบันแรงงานคุณภาพมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการ รวมทั้งขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์ผู้จบการศึกษาปี 2563 มีสูงถึง 1.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มี 1.6 ล้านคน โดยพบว่าแรงงานที่จบการศึกษามานั้น ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่ไม่ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ และบางสาขาวิชาเกินความต้องการในตลาดแรงงาน จึงเป็นที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้ของทั้ง 2 องค์กร มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสนับสนุนระบบสรรหาแรงงานและเครื่องมือการค้นหาผู้สมัครงานให้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ช่วยเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งงานภาคอุตสาหกรรม สร้างตลาดงานและคนหางานบนโลกไซเบอร์ (Cyber Employment Community) ที่ผู้ประกอบการและผู้สมัครงานสามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ สร้างโอกาสให้บุคลากรที่มีคุณภาพได้มีงานทำเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการให้โอกาสในด้านการฝึกงานในระหว่างการศึกษาของนักศึกษา มุ่งเน้นเสริมศักยภาพให้ผู้สมัครงานมีความพร้อมทุกด้านก่อนเข้าสู่ตลาดงานเพื่อสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งภาคการผลิตยังมีความต้องการแรงงานคุณภาพเข้าสู่ตลาดแรงงานอีกเป็นจำนวนมาก และเชื่อมั่นว่า "การลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการสนับสนุนระบบสรรหาแรงงานและการค้นหาผู้สมัครงานให้ตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการ ระหว่าง ส.อ.ท. และบริษัท ซูเปอร์เรซูเม่ จำกัด" ในครั้งนี้ จะตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานคุณภาพ
นอกจากนี้ "ส.อ.ท. ต้องการเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่ช่วยผลักดันให้การเพิ่มผลผลิต (Productivity) ของแรงงาน ให้เป็นวาระแห่งชาติ มากกว่าการแก้ปัญหาด้วยการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ" ที่อาจทำให้ผู้ประกอบการ SMEs ไม่สามารถจ่ายค่าจ้างในอัตราสูงได้ และส่งผลให้ล้มเลิกกิจการไปในที่สุด