กระทรวงสาธารณสุข - สปสช. และเครือข่ายคลินิกโรคหืดฯ มุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายการรักษาที่ได้มาตรฐาน ไปสู่สถานบริการสาธารณสุขระดับปฐมภูมิ

ศุกร์ ๒๔ พฤษภาคม ๒๐๑๙ ๑๑:๒๙
กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น และเครือข่ายคลินิกโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย (Easy Asthma and COPD Clinic: EACC) นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย รศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ ประธานเครือข่าย EACC เข้าร่วมประชุมใหญ่ประจำปี ครั้งที่ 15 เครือข่ายคลินิกโรคหืดฯ สานต่อปณิธานที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ในการทำให้ผู้ป่วยโรคหืด และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในประเทศไทยสามารถเข้าถึงบริการการรักษาโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังที่ได้มาตรฐาน ตั้งแต่สถานบริการสาธารณสุขระดับปฐมภูมิ จนถึงโรงพยาบาลศูนย์ โดยมุ่งเน้นความสำคัญในการรักษาแบบองค์รวมร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพ เพื่อให้คุณภาพชีวิตผู้ป่วยดีขึ้น และด้วยสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่ผ่านมา ยิ่งทำให้ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหืด และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังยิ่งได้รับผลกระทบ ดังนั้นการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการสาธารณสุขระดับประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่า ปี 2563 โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังจะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 3 ของประชากรโลก

นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเปิดในงานประชุมใหญ่ประจำปี ครั้งที่ 15 ว่า "แผน 20 ปีกระทรวงสาธารณสุข องค์กรแห่งความเป็นเลิศ 4 ด้าน คือ เป็นเลิศด้านสุขภาพดี (P&P Excellence) เป็นเลิศด้านบริการดี (Service Excellence) เป็นเลิศด้านคนดี (People Excellence) และเป็นเลิศด้านบริหารดี (Governance Excellence) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน ทั้งนี้กระทรวงฯ เล็งเห็นว่า โรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD & Asthma) เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCD จากข้อมูลของ WHO หรือ องค์การอนามัยโลก พบว่า ในประเทศไทยโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 6% มากกว่าโรคเบาหวานที่มีอัตราการเสียชีวิต 4% ซึ่งกระทรวงฯ มีแผนการจัดบริการความเป็นเลิศด้านโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Service Excellence NCDs) โดยมุ่งเน้นการดูแลรักษาแบบองค์รวมในรูปแบบเครือข่ายบริการสุขภาพ ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้สนับสนุนให้มีการขยายจำนวนเครือข่ายการดำเนินงานของคลินิกโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย ในโรงพยาบาลทั่วประเทศที่ไม่มีแพทย์เฉพาะทางด้านนี้ ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีสถานบริการสาธารณสุขโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังทั้งในระดับโรงพยาบาลศูนย์ฯ, โรงพยาบาลทั่วไป จนถึงโรงพยาบาลชุมชน ทำให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ระบบบริการสุขภาพในประเทศไทยในปัจจุบันขับเคลื่อนด้วยโรงพยาบาลใหญ่ ไม่มีเจ้าภาพดูแลแบบองค์รวม เปรียบดังสามเหลี่ยมหัวกลับที่ตั้งอยู่บนยอดสามเหลี่ยม ขาดความมั่นคงในระบบ ทำให้ผู้ป่วยส่วนหนึ่งไม่ได้มารับบริการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการควบคุมโรคทำให้อัตราการกำเริบเฉียบพลันเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งแนวทางการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพนี้ ก็มีการแบ่งกันทำงานในหลายภาคส่วน ทั้งในส่วน การส่งเสริม ป้องกัน และรักษาโรค รวมถึงช่วยกันขยายรูปแบบและแนวทางการรักษา การส่งต่อผู้ป่วยที่คุมอาการได้แล้วไปสู่ระบบบริการระดับปฐมภูมิ หรือ PCC (Primary Care Custer) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการรักษาที่ใกล้บ้านมากยิ่งขึ้น สะดวกขึ้น คุณภาพชีวิตก็จะดีขึ้นไปด้วย สมดังคำที่ว่า "Zero OPD walk in ในโรงพยาบาลศูนย์"

รศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ ประธานเครือข่ายคลินิกโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย (Easy Asthma and COPD Clinic Network) กล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมา มีผู้ป่วยโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังที่สามารถเข้าถึงการรักษา

ที่ได้มาตรฐาน ได้เพียง 30% เท่านั้น จึงเป็นความท้าทายของแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และบุคลากรทางการแพทย์

ที่จะทำอย่างไรให้ผู้ป่วยในสัดส่วนที่เหลืออีก 70% เข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขที่ได้มาตรฐาน ง่ายต่อการประเมิน

และการรักษา แม้ว่าสถานบริการสาธารณสุขนั้น ๆ จะไม่มีแพทย์เฉพาะทาง แต่ก็ยังสามารถรักษาผู้ป่วยได้โดยแพทย์ทั่วไป

เพราะแนวทางการรักษาแบบเครือข่ายคลินิกโรคหืดฯ มีแนวทางที่ง่ายต่อการนำไปปฏิบัติ และได้มาตรฐานการรักษาที่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านสาธารณสุข

สำหรับการประชุมใหญ่ประจำปี ครั้งที่ 15 นี้ มีจุดประสงค์ เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้ใหม่ ๆ ตามแนวทางการรักษาระดับสากลที่มีการปรับเปลี่ยนไปในแต่ละปี ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งส่งเสริมให้สถานบริการสาธารณสุขหรือสมาชิกเครือข่ายฯ ที่ทำคลินิกได้มาตรฐานอยู่แล้ว ช่วยกันขยายรูปแบบ และแนวทางการรักษาแบบเดียวกันกับที่ดำเนินการอยู่ ไปสู่ระบบบริการปฐมภูมิ เข้าถึงผู้ป่วยส่วนที่ยังเข้าไม่ถึงการรักษา รวมถึงสร้างเครือข่ายในการส่งต่อผู้ป่วยที่สามารถควบคุมอาการกำเริบของโรคได้แล้ว ไปยังสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านผู้ป่วย อาทิ คลินิกหมอครอบครัว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และร้านขายยาคุณภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยสะดวกต่อการได้รับการรักษามากยิ่งขึ้น ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย

ในการเดินทาง รวมถึงโรงพยาบาลศูนย์ฯ เอง ก็จะไม่แออัด สามารถรองรับผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ได้มากขึ้น

ทั้งนี้ จากสถิติ-สาธารณสุข ปี 2558 มีผู้ป่วยโรคหืดนอนรักษาในโรงพยาบาล 115,577 คน และมีผู้ป่วยโรคปอด

อุดกั้นเรื้อรัง 249,742 คน โดยประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคหืดประมาณร้อยละ 7 ของประชากร และพบผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอีกจำนวน 1.5 ล้านคน คาดว่าผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ประมาณร้อยละ 5 ป่วยเป็นโรคนี้ ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก

ประมาณการณ์ว่าในปี ค.ศ. 2020 หรือ พ.ศ. 2563 โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังจะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ของประชากรโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๒ ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีงูเล็ก ที่โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท
๑๗:๐๐ IMPACT เผยปี 68 ข่าวดี! โครงการ Sky Entrance รถไฟฟ้าสายสีชมพูมาตามนัด หนุนทราฟฟิคแน่น - จับมือพาร์ทเนอร์
๑๗:๕๒ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม สนับสนุนโครงการ กู้วิกฤตและอนุรักษ์พะยูน ครั้งที่ 2
๑๗:๕๘ แสนสิริ เจ้าตลาดคอนโดแคมปัส อวดโฉม ดีคอนโด วิวิด รังสิต คอนโดใหม่ตรงข้าม ม.กรุงเทพ
๑๖:๔๓ เอ็นไอเอ - สสส. ดึงนิวเจน สรรค์สร้างนวัตกรรมส่งเสริมสุขภาพ ในแคมเปญ The Health Promotion INNOVATION PLAYGROUND
๑๗:๕๘ กรมวิทย์ฯ บริการ เร่งพัฒนาระบบ e-Learning ยกระดับการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ
๑๖:๕๘ เขตจตุจักรกวดขันคนไร้บ้านเชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
๑๗:๑๗ เขตพระนครประสานกรมเจ้าท่า-เอกชน เร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ท่าเรือสุพรรณเดิม
๑๗:๔๐ กทม. กำชับเจ้าของอาคารตรวจสอบโครงสร้างบันไดเลื่อน เพิ่มความปลอดภัยประชาชน
๑๖:๓๗ แลกเก่าเพื่อโลกใหม่ ช้อปคุ้ม พร้อมลดหย่อนภาษี! 'เปลี่ยนของเก่าเป็นความคุ้ม' ผ่าน Easy E-Receipt ได้ที่โฮมโปร เมกาโฮม