เปิดตัวเลขดุลการค้า Q1 ไทย-อาเซียน สศก. เผย ไทยได้ดุล 53,244 ล้านบาท

อังคาร ๒๘ พฤษภาคม ๒๐๑๙ ๐๙:๕๓
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรไทยกับอาเซียน ในช่วงไตรมาสแรก ปี 2562 (ม.ค. - มี.ค.62) พบว่า ไทยยังคงเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้าในอาเซียน คิดเป็นมูลค่า 53,244 ล้านบาท โดยสินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญของไทย ได้แก่ น้ำตาล อาหารปรุงแต่งจากเนื้อปลา เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ข้าวเจ้าและข้าวหอมมะลิ ผลไม้ และยางพาราธรรมชาติ สำหรับสินค้าที่ไทยนำเข้า ได้แก่ ปลาและสัตว์น้ำ มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ อาหารปรุงแต่ง วัตถุปรุงแต่งอาหาร ของปรุงแต่งจากผักและผลไม้ เป็นต้น

การค้าสินค้าเกษตร (พิกัดศุลกากร 01 – 24) และยางพาราธรรมชาติ (พิกัดศุลกากร 4001) ในช่วงมกราคม – มีนาคม 2562 จากไทยไปยังอาเซียน พบว่า มูลค่าการค้ารวม 107,160 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.56 จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561 โดยมี มูลค่าการส่งออก 80,202 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.08 จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561 และมูลค่าการนำเข้า 26,958 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8.69 จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561 อย่างไรก็ดีในภาพรวมแล้วไทยได้เปรียบดุลการค้าอาเซียนเป็นมูลค่า 53,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.02 จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561

สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและยางพาราธรรมชาติของไทยไปยังอาเซียนเป็นรายประเทศ พบว่า ไทยส่งออกไปยังเวียดนามมีมูลค่าเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22 รองลงมา ได้แก่มาเลเซีย ร้อยละ 17 อินโดนีเซีย ร้อยละ 16 กัมพูชา ร้อยละ 12 ตามลำดับ และหากพิจารณาดุลการค้า พบว่า ไทยได้เปรียบดุลการค้าของสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เวียดนามเป็นอันดับหนึ่ง โดยคิดเป็นมูลค่าที่ได้เปรียบดุลการค้าเท่ากับ 13,154 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ มาเลเซีย 10,146 ล้านบาท อินโดนีเซีย 7,698 ล้านบาท กัมพูชา 5,892 ล้านบาท และฟิลิปปินส์ 5,569 ล้านบาท ตามลำดับ

นอกจากการติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างไทยกับอาเซียนแล้ว สศก. ยังได้ติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างไทยกับตลาดหลักที่เป็นคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป และจีน โดย พบว่า ไตรมาส 1 ปี 2562 ไทยได้เปรียบดุลการค้า จีน จำนวน 31,861 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา จำนวน 11,564 ล้านบาท ญี่ปุ่น จำนวน 35,200 ล้านบาท และสหภาพยุโรป จำนวน 18,215 ล้านบาท ซึ่งช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 สถานการณ์การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยมีทิศทางดีขึ้น มีการขยายตัวของการส่งออกในตลาดอเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรป ซึ่งเป็นผลจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลดลง แต่การส่งออกไปยังตลาดจีนนั้น ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ซึ่งอาจเป็นผลกระทบจากนโยบายตอบโต้สงครามการค้าของจีน ที่มีการพึ่งพาตนเอง บริโภคสินค้าภายในประเทศ และลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยควรขยายตลาดสินค้าเกษตรสำคัญๆ เช่น กลุ่มผลไม้ ไปยังตลาดอื่นๆ ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อทดแทนการพึ่งพาตลาดจีน และลดการแข่งขันกับประเทศเวียดนามที่เป็นคู่แข่งของไทยในกลุ่มสินค้าผลไม้ โดยมีข้อได้เปรียบไทยในเรื่องการมีพรมแดนติดกับจีน จึงทำให้มีต้นทุนค่าขนส่งที่ต่ำกว่า และมีระยะเวลาการขนส่งน้อยกว่า

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๑ Kaspersky รายงานการขโมยข้อมูลธนาคารบนสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น 3 เท่าในปี 2024
๑๗:๐๐ Kaspersky เผย มัลแวร์ขโมยข้อมูลบัตรธนาคาร ปล่อยรั่วไหล 2.3 ล้านใบ
๑๗:๐๐ สมาคมกีฬาเทนนิสสูงอายุไทย ปักหมุด คริสตัล สปอร์ต ทำ Tennis Clinic
๑๖:๔๙ เคพีเอ็น เปิดตัวกองทรัสต์ KPNREIT ปลดล็อกศักยภาพการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ พร้อมกางแผนยกระดับสินทรัพย์และขยายพอร์ตการลงทุน
๑๖:๐๐ โชห่วยยาสูบโอด นายก อิ๊งค์ สั่งปราบบุหรี่ไฟฟ้าแต่ปล่อยบุหรี่เถื่อนเกลื่อนเมือง
๑๖:๐๑ แฟนคลับ เต็มอิ่ม! ใจฟู! กันถ้วนหน้า กับ THEE PAUSE B.O.B Blend Of Brothers Concert ครั้งแรกบนเวทีเดียวกันของ ธีร์ ไชยเดช และ
๑๖:๐๐ EMMA CLINIC เผยศัลยกรรม ทางเลือกเพื่อดึงความมั่นใจด้านความงาม อยากเปลี่ยนชีวิตใหม่ ต้องปั้นความเป๊ะปัง! แบบธรรมชาติ เจ็บน้อย
๑๖:๔๐ OMODA JAECOO พา JAECOO 6 EV คว้ารางวัล BEST OFF ROAD EV ในงาน CAR OF THE YEAR 2025 ประกาศความมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต
๑๖:๓๙ ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย ร่วมส่งเสริมการตรวจคัดกรองวัณโรคในกลุ่มผู้ที่มีเชื้อ HIV ภายใต้แนวคิด กำแพงสังคมที่มองไม่เห็น ด้วยนวัตกรรมชุดตรวจ Urine
๑๖:๐๐ กทม. แจงหลักเกณฑ์ตั้งป้ายรถเมล์ คำนึงถึงความเหมาะสมกายภาพทางเท้า-ความสะดวกประชาชน