นายวีระ เผยต่อว่า อย่างไรก็ตามเพื่อให้ตรงกับเกณฑ์การพิจารณาของยูเนสโก ต้องมีการจัดเตรียมข้อมูลให้รอบด้าน โดยกำหนดชุมชนที่เกี่ยวข้องกับต้มยำกุ้งให้ชัดเจน และสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน (public hearing) ในการจัดทำมาตรการเพื่อการสงวนรักษา จากการประชุมคณะทำงานด้านการจัดทำข้อมูลฯ พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สถาบันการศึกษาที่สอนเรื่องต้มยำกุ้ง สมาคมผู้ประกอบการ ผู้ได้รับรางวัลเกี่ยวกับต้มยำกุ้ง และชุมชนที่เกี่ยวข้องกับการทำเครื่องต้มยำหรือปลูกสมุนไพรพบว่าในส่วนชุมชนมีการสืบทอดและพัฒนาสร้างสรรค์การทำต้มยำกุ้งอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับครอบครัว ชุมชน ร้านอาหาร และสถาบันการศึกษาทั้งในและนอกระบบที่มีการเรียนการสอน ทำให้สามารถอ้างอิงข้อมูลได้ เมื่อมีการรวบรวมข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องรอบด้านแล้ว จึงเข้าสู่ขั้นตอนจัดทำเอกสารตามแบบฟอร์ม พร้อมสื่อต่างๆ เช่น ภาพถ่ายและวีดิทัศน์ จากนั้นจะเสนอให้คณะอนุกรรมการพิจารณาและขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดก ฯ และนำเสนอคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติและเสนอคณะรัฐมนตรี และจะยื่นเอกสารต่อยูเนสโก ภายใน 31 มีนาคม 2563 เพื่อเข้าสู่รอบการพิจารณาต่อไป
และที่ประชุมคณะกรรมการฯ ยังได้รับรายงานผลการดำเนินงาน โครงการรุกข มรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ด้วยการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับต้นไม้ ที่ทรงคุณค่าในทางธรรมชาติและมีความสำคัญต่อท้องถิ่นในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการสืบค้น เผยแพร่ รวมถึงส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ได้เห็นความสำคัญของต้นไม้ มีส่วนร่วมอนุรักษ์ รักษาต้นไม้ในท้องถิ่นของตน โดยประกอบด้วยต้นไม้จำนวน 88 ต้น อาทิ ต้นมะเดื่อยักษ์ หมู่บ้านวุ้งกะสัง โป่งน้ำร้อน คลองลาน กำแพงเพชร / ต้นยมหิน วัดพระธาตุดอยกูแก้ว บ้านป่าสักหลวง แม่จัน เชียงราย / ต้นสมอพิเภก อุทยานแห่งชาติแม่ตระไคร้ เชียงใหม่ / ต้นเต่าร้างยักษ์ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อ.ปัว น่าน / ต้นสะตือ วัดสิงห์ สามโคก ปทุมธานี / กลุ่มระบบนิเวศน์ป่าโกงกาง วนอุทยานปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ / กลุ่มระบบนิเวศป่าไม้เสม็ดขาว สวนพฤกษศาสตร์ระยอง ระยอง / ต้นค้างคาว อนุสาวรีย์พระศรีสุวรรณวงศา พยัคฆภูมิพิสัย มหาสารคาม / กลุ่มต้นสนยักษ์ วนอุทยานป่าสนหนองคู สุรินทร์ / ต้นกระทิง (สารภีทะเล) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ คุระบุรี พังงา เป็นต้น
การประกาศผลการคัดเลือกต้นไม้ทรงคุณค่า ประจำปี 2562 จำนวน 88 ต้น นี้ จัดทำขึ้นด้วยวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง เป็นการเจริญรอยตามพระราชปณิธาน ที่ทรงให้ความสำคัญในการรักษาทรัพยากรป่าไม้ของชาติ และจะมีส่วนกระตุ้นให้เกิดกระแสการอนุรักษ์ รักษาต้นไม้ ในหมู่ประชาชนอย่างจริงจัง ทั้งยังส่งผลดีต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในท้องถิ่น ทำให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของชุมชน สามารถเสริมสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนได้อีกทางหนึ่งด้วย