นวัตกรรมของโครงสร้างเหล็ก ProFrame ได้รับความนิยมมากและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในต่างประเทศมากกว่า 10 ปี โดยโครงสร้างเหล็ก ProFrame นี้ ช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และลดปริมาณคนงานก่อสร้างได้ รวมถึงสร้างได้อย่างรวดเร็วถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ต้องสร้างบ้านแบบก่ออิฐฉาบปูน รวมถึงลดความผิดพลาดในการก่อสร้างเนื่องจากโครงสร้างถูกตัด เจาะ ด้วยเครื่อง CNC ประกอบเป็นชิ้นจากโรงงานตามมาตรฐานการผลิต และขนส่งไปติดตั้งที่หน้างานก่อสร้างได้ทันที จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ช่วยลดระยะเวลาในการสร้างบ้าน รวดเร็ว และแก้ปัญหาค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
"นวัตกรรมนี้มีอยู่ในต่างประเทศอย่างยาวนาน และในประเทศไทยก็ได้มีแล้วเช่นกัน แต่ถูกนำไปใช้ในอาคารระดับสูง อย่างโรงเรียน อาคารพาณิชย์ หรือ Community ต่างๆ ไม่ได้นำมาใช้กับการปลูกสร้างบ้าน ในเรื่องของความรวดเร็วต้องยอมรับ เพราะว่าสามารถย่นระยะเวลาการปลูกสร้างบ้านได้เกือบ 50% นอกจากนั้น ProFrame เป็นระบบที่พัฒนาจากประเทศที่มีภัยพิบัติธรรมชาติบ่อย โครงสร้างเหล็กนี้จึงต้านทานพายุ แผ่นดินไหวได้ ด้วยครับ" นายปราโมทย์กล่าว
นอกจากนั้น เครือบริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด ได้เข้าร่วมบันทึกข้อตกลง ภายใต้สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่รณรงค์ให้บริษัทรับสร้างบ้านดำเนินงานโดยให้คำนึงถึงการส่งเสริมการพัฒนาและการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลดขยะ ลดมลพิษ ลดภาวะโลกร้อน รวมถึงลดปริมาณฝุ่น ซึ่งนวัตกรรมบ้านโครงสร้างเหล็ก ProFrame เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างดี
"ถึงแม้ว่า เครือบริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด นำโครงสร้างเหล็ก ProFrame มาเป็นนวัตกรรมใหม่ในการก่อสร้างบ้าน แต่รูปแบบการสร้างบ้านแบบก่ออิฐฉาบปูนที่โฟร์พัฒนาดำเนินงานมายาวนานกว่า 38 ปี ยังคงมีอยู่และคงไว้ซึ่งมาตรฐานการสร้างบ้านเช่นเดิม แต่ ProFrame เป็นเพียงอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภคที่เล็งเห็นถึงความก้าวหน้าของนวัตกรรมการก่อสร้างบ้านและต้องการนำมาใช้กับบ้านของตนเอง เพื่อความแข็งแรง รวดเร็ว ลดความผิดพลาด ลดปริมาณฝุ่น ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน" นายปราโมทย์ กล่าว