กระทรวงดีอี เปิดตัวโครงการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ มุ่งขับเคลื่อนบุคลากรภาครัฐสู่ดิจิทัล

พุธ ๐๕ มิถุนายน ๒๐๑๙ ๑๕:๒๙
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมด้วย สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) และบมจ. กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เปิดตัวโครงการ Government Data Center and Cloud Servvice (GDCC) หรือระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ณ อาคารสโมสร ชั้น 2 บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หลักสี่ กรุงเทพฯ

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) ประธานเปิดโครงการ ฯ กล่าวว่า GDCC เป็นบริการใหม่ล่าสุดที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์ด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแล้ว GDCC ยังเป็นการพลิกวิธีการทำงานของหน่วยงานภาครัฐในการให้บริการประชาชนได้เป็นอย่างดี สามารถบูรณาการข้อมูลข้ามหน่วยงานได้ รวมถึงจัดเตรียมทรัพยากรและกระบวนการต่างๆ ให้พร้อมสำหรับการเข้าถึง เพราะที่ผ่านมาเรามีการผลักดันโครงการไอทีของภาครัฐออกมาอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังไม่ทันสมัยเท่าที่ควร วันนี้ขอให้มั่นใจว่า smart and open government ของไทยกำลังเกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญหากทุกหน่วยงานจะช่วยกันขับเคลื่อน โดยมี 4 คำสำคัญที่เกี่ยวข้องและต้องทำให้เกิดการพัฒนาต่อไป ได้แก่ Big Data/ Data Center / cloud Service และ One Stop Service (OSS)

ดร.พิเชฐ กล่าวว่า นอกจากนี้ กระทรวงดีอี อยู่ระหว่างการจัดตั้งสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (Government Big Data institute) เพื่อรองรับการให้บริการด้านบุคลากรและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Big Data Analytics) และใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อประกอบการตัดสินใจ (Data Driven Decision) การดำเนินงาน (Insight to Operation) และการให้บริการประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประชาชนได้ตรงจุดมากขึ้น

ด้านนางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า กระทรวงดีอีดำเนินโครงการ GDCC เพื่อพัฒนาให้เกิด Cloud Infrastructure ที่มีมาตรฐานและมีความปลอดภัยสูง สำหรับรองรับการบูรณาการข้อมูลสถิติและสารสนเทศภาครัฐ มีเป้าหมายเพื่อให้มีระบบกลางในการให้บริการ Cloud Service สำหรับหน่วยงานภาครัฐที่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของบุคลากร ทำให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรคอมพิวเตอร์บนระบบคลาวด์ได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึงซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและยังช่วยลดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้โครงการ GDCC ยังใช้เทคโนโลยีแบบ Open source ที่ใช้อยู่ทั่วโลก ขณะเดียวกันในโครงการจะมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีความสามารถด้าน Cloud computing จำนวนกว่า 2,500 คน และเพียงพอต่อการปรับเปลี่ยนไปสู่รัฐบาลดิจิทัล โดยผู้ที่ผ่านการรับรองสามารถนำความรู้ไปถ่ายทอด ประยุกต์ใช้งานต่อในหน่วยงานของตนเองและถ่ายทอดต่อให้กับบุคคลากรในหน่วยงาน โดยการดำเนินงานโครงการ GDCC มีกรอบงบประมาณต่อเนื่อง 3 ปี (พ.ศ. 2563-2565) และมอบหมายให้กระทรวงดีอี โดย สดช. เป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบดำเนินงาน พร้อมทั้งให้ CAT ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีอำนาจหน้าที่และความพร้อมเป็นผู้ดำเนินการจัดทำ GDCC ปัจจุบันโครงการ GDCC มีความพร้อม โดยหน่วยงานนำร่องจะเริ่มให้บริการในช่วงปลายปีงบประมาณ 2562 นี้

ทั้งนี้ ภายในงาน "GDCC Cloud Day by MDES" ได้มีการจัดกิจกรรมบรรยายและเสวนาให้ความรู้ความเข้าใจโดยละเอียดเกี่ยวกับโครงการ GDCC และแนวทางการบูรณาการข้อมูลต่างๆ ในระดับปฏิบัติให้แก่เจ้าหน้าที่ไอทีจากหน่วยงานภาครัฐต่างๆ กว่า 400 คน ในหัวข้อ "Government Big Data Analytics Framework" หัวข้อ "สุมหัวคิดเรื่อง GDCC House Model" พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญจาก CAT สาธิตการโอนย้ายข้อมูล (Cloud Migration) ขึ้นสู่ระบบคลาวด์กลาง GDCC

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ