“ดัชนีฯ เดือนมิถุนายน 2562 ลดลงต่อเนื่องอยู่ที่โซนทรงตัวเป็นเดือนที่สาม โดยข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน ขณะที่นักลงทุนคาดหวังการเมืองคลี่คลายภายหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่หนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน”

พฤหัส ๐๖ มิถุนายน ๒๐๑๙ ๑๓:๕๙
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือนมิถุนายน 2562 ว่า "ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว (Neutral) เป็นเดือนที่สาม โดยผลสำรวจพบว่าปัจจัยต่างประเทศจากสถานการณ์ข้อพิพาททางการค้าเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ขณะที่คาดหวังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และนโยบายภาครัฐ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน"

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือนมิถุนายน 2562 ได้ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้

- ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (สิงหาคม 2562) อยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" (Neutral) (ช่วงค่าดัชนี 80 - 119) โดยลดลง 16.56% มาอยู่ที่ระดับ 87.20

- ดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศทรงตัวอยู่ใน Zone ทรงตัว (Neutral)

- ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ลดลงมาอยู่ใน Zone ซบเซา (Bearish)

- ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนรายบุคคลลดลงมาอยู่ใน Zone ซบเซา (Bearish)

- ดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ อยู่ใน Zone ทรงตัว (Neutral) เช่นเดิม

- หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดธนาคาร (BANK)

- หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดสื่อและสิ่งพิมพ์ (MEDIA)

- ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์ทางการเมือง

- ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ

"ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนลดลงโดยอยู่ในเกณฑ์ทรงตัวเป็นเดือนที่สาม โดยกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงจากเกณฑ์ร้อนแรงมาอยู่ที่เกณฑ์ซบเซา กลุ่มบัญชีนักลงทุนรายบุคคลลดลงจากเกณฑ์ทรงตัวมาอยู่ที่เกณฑ์ซบเซา ขณะที่กลุ่มสถาบันในประเทศและกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศลดลงเล็กน้อยอยู่ที่เกณฑ์ทรงตัวเช่นเดิม

ในช่วงเดือนพฤษภาคม ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ เคลื่อนไหวลดลงจากระดับสูงสุดของเดือนที่ 1682 จุด ในช่วงต้นเดือน และทยอยลดลงต่อเนื่องมาระดับต่ำสุดที่ 1604 จุดในช่วงกลางเดือน จากนั้นดัชนีฯปรับฟื้นตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวในช่วง 1620-1630 จุด โดยทิศทางการลงทุน ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุดเป็นปัจจัยจากต่างประเทศจากความกังวลการเจรจาสงครามทางการค้าที่มีแนวโน้มยืดเยื้อและขยายสู่อุตสาหกรรมทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐและจีน รองลงมาคือสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการพิจารณางบประมาณภาครัฐปี 2563 ล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนมองว่าสถานการณ์การเมืองและนโยบายภาครัฐที่ต่อเนื่องภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นการลงทุนมากที่สุด โดยการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศหนุนความเชื่อมั่นในลำดับรองลงมา สำหรับปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่ต้องติดตามได้แก่ ความคืบหน้าข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และนโยบายทางเศรษฐกิจของจีนเพื่อรองรับสงครามทางการค้าและเทคโนโลยี ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ ความเสี่ยงและ ทิศทาง BREXIT ภายหลังการลาออกของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซ่า เมย์ แนวโน้มทิศทางการเปลี่ยนแปลงนโยบายของกลุ่มอียูภายหลังการเลือกตังรัฐสภายุโรป นโยบายของภาครัฐของรัฐบาลชุดใหม่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศและการส่งออก ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม"

ดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Expectation Index) เดือนมิถุนายน 2562

"ผลจากดัชนีคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับ 1.75% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี และอายุ 10 ปีมีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลงในอีก 12 สัปดาห์ข้างหน้านับจากวันที่ทำการสำรวจ (17 พ.ค. 62) อันเป็นผลมาจากความกังวลจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ"

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Expectation Index) เดือนมิถุนายน 2562 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

- ดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม กนง. รอบเดือนมิถุนายนนี้ อยู่ที่ระดับ 50 ลดลงจากครั้งที่แล้ว แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ "ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน (Unchanged)" สะท้อนมุมมองของตลาดที่เพิ่มขึ้นว่าการประชุม กนง. ในเดือนมิถุนายนนี้มีโอกาสที่จะคงดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.75 ต่อไป โดยยังคงให้น้ำหนักกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ทิศทางดอกเบี้ยในตลาดโลก และอัตราเงินเฟ้อ เช่นเดิม

- ดัชนีคาดการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5 ปี ในรอบการประชุม กนง. สิงหาคม 2562 (ประมาณ 12 สัปดาห์ข้างหน้า) อยู่ที่ระดับ 36 ลดลงอย่างมากจากครั้งที่แล้ว และย้ายมาอยู่ในเกณฑ์ "ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน (Unchanged)" จากระดับ 2.10% ณ วันที่ทำการสำรวจ (17 พ.ค. 62) เช่นเดียวกันกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี ที่ดัชนีคาดการณ์ลดลงค่อนข้างมากจากครั้งที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 31 และมาอยู่ในเกณฑ์ "ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน (Unchanged)" จากระดับ 2.54% ณ วันที่ทำการสำรวจ (17 พ.ค. 62) โดยปัจจัยหนุนสำคัญ ได้แก่ อุปสงค์อุปทานในตลาดตราสารหนี้ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยโลก และ Fund flow จากต่างชาติ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย