นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้จัดให้มีการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินเป็นประจำทุกปี เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และสอดคล้องกับมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization หรือ ICAO) ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน 2562 ระหว่างเวลา 02.00 - 05.30 น. ณ บริเวณทางขับสาย C ช่วง T1 และ บริเวณพื้นที่รองรับผู้โดยสาร (Bus Gate A-B) โดยจำลองสถานการณ์สมมุติการเกิดอากาศยานอุบัติเหตุ ณ ท่าอากาศยาน
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า สำหรับการฝึกซ้อมตามแผนฉุกเฉินของ ทสภ. ในปีนี้ เป็นการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินเต็มรูปแบบ ประจำปี 2562 กรณี อากาศยานอุบัติเหตุ ณ ท่าอากาศยาน (SEMEX - 19) ซึ่งมีการจำลองสถานการณ์ว่า ทสภ. ได้รับรายงานจากหอบังคับการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ว่าเครื่องบินของสายการบิน Robust Airways เที่ยวบินที่ RO890 แบบอากาศยาน A320 มีกำหนดเดินทางจาก ทสภ. ไปยังท่าอากาศยาน Baybom ประเทศ Ondia มีผู้โดยสารจำนวน 152 คน นักบินและลูกเรือจำนวน 9 คน ในขณะที่เครื่องกำลังวิ่งขึ้นบนทางวิ่ง เครื่องยนต์ได้เกิดขัดข้องและดับลงอย่างกะทันหัน นักบินไม่สามารถควบคุมอากาศยานได้ ทำให้อากาศยานตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้ลำตัวอากาศยานแตก มีน้ำมันเชื้อเพลิงรั่วไหลและมีเพลิงลุกไหม้ เมื่อได้รับแจ้งเหตุ ทสภ. จึงได้มีการประกาศใช้แผนฉุกเฉินบทที่ 1 กรณี อากาศยานอุบัติเหตุ และจัดส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัย ทสภ. รวมทั้งเจ้าหน้าที่แพทย์ ทสภ. เข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการตามแผนฉุกเฉินร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกู้ภัย อพยพ และดูแลผู้โดยสารให้เป็นไปตามขั้นตอนปฏิบัติตามแผนฉุกเฉิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาชีวิตของผู้ประสบเหตุ ทั้งนี้ การฝึกซ้อมดังกล่าว นอกจากจะมีส่วนงานภายใน ทสภ. ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัย ฝ่ายการแพทย์ ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ฝ่ายการท่าอากาศยาน ฝ่ายมาตรฐานท่าอากาศยานและอาชีวอนามัย ฝ่ายปฏิบัติการเขตการบิน ฯลฯ รวมทั้งยังมีหน่วยงานภายนอก อาทิ บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัดสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ สายการบิน และบริษัทผู้ให้บริการภาคพื้น ฯลฯ ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการฝึกซ้อมในครั้งนี้ด้วย
นายกิตติพงศ์ กล่าวในตอนท้ายว่า การฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉินในครั้งนี้เป็นการฝึกซ้อมเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และสอดคล้องกับมาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่กำหนดให้แต่ละท่าอากาศยานของรัฐภาคีจัดให้มีแผนฉุกเฉิน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหากเกิดเหตุการณ์จริง และให้มีการดำเนินการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ (Full - scale Emergency Exercise) สลับกับการฝึกซ้อมบางส่วน (Partial Emergency Exercise) อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ซึ่งการฝึกซ้อมดังกล่าวจะทำให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดความชำนาญในการปฏิบัติงาน ได้เรียนรู้ขั้นตอนการปฏิบัติที่ถูกต้อง สามารถควบคุมสั่งการ ประสานงานร่วมกันในการรับมือกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นจริง และมีการปฏิบัติงานร่วมกันแบบบูรณาการ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย ทสภ. ทั้งนี้ ทสภ. มีความมุ่งมั่น พัฒนาและเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินทุกรูปแบบ เพื่อความปลอดภัย ของผู้โดยสารและผู้ใช้บริการอย่างสูงสุด ให้ได้มาตรฐานท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก