ทั้งนี้ ประเทศทั่วโลกต่างให้ความสำคัญในการพัฒนาดินเป็นอย่างมาก ประเทศสมาชิกสมัชชาความร่วมมือทรัพยากรดินแห่งเอเชีย (Asian Soil Partnership หรือ ASP) จึงเสนอให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัยดินแห่งภูมิภาคเอเชีย หรือCESRA เพื่อเป็นศูนย์กลางข้อมูล การวิจัย และนวัตกรรมด้านทรัพยากรดินของภูมิภาค ส่งเสริมงานวิจัยสร้างเครือข่ายศูนย์วิจัยด้านการบริหารจัดการทรัพยากรดิน และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และข้อมูลด้านทรัพยากรดิน และประเทศไทยได้จัดตั้ง Thai Soil Partnership หรือ TSP เพื่อเป็นกลไกสำคัญเชื่อมโยงความร่วมมือไปยัง ASP และทั่วโลก เพื่อให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรดินยั่งยืน
สำหรับพื้นที่ตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ประสบปัญหาการชะล้างพังทลายดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมพัฒนาที่ดิน ร่วมกับบริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และจังหวัดอุทัยธานี จึงจัดโครงการ "หยุดการชะล้างพังทลายของดิน คืนชีวิตให้แก่นมะกรูด"เพื่อเป็นเครือข่ายร่วมแก้ไขปัญหาการชะล้างพังทลายของดินด้วยการน้อมนำความรู้ตามแนวทางศาสตร์พระราชามาใช้ในการอนุรักษ์ดินและน้ำส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดินของเกษตรกรตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ควบคู่กับการสนับสนุนองค์ความรู้เพื่อการประกอบอาชีพ และการส่งเสริมแปรรูปสินค้าเกษตรของชุมชนเพื่อเป็นรายได้เสริมให้กับเกษตรกร
นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานวางแผนยุทธศาสตร์และพัฒนาความยั่งยืนองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท บางจากฯได้เข้าร่วมโครงการด้านดิน เนื่องจากเป็นแนวทางที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากโลกร้อน เพราะดินเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่จะก่อให้เกิดชีวิต หากดินเสื่อมภาพจะนำภัยพิบัติมาสู่ประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกร ซึ่งการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาการชะล้างพังทลายของดินโดยการน้อมนำศาสตร์พระราชามาปรับใช้ในพื้นที่นำร่องของเกษตรกร โดยดำเนินการในลักษณะโครงการวิจัย มีการติดตามวัดผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น ทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยได้วางแผนกำหนดตัวชี้วัดผลลัพธ์สำคัญ และติดตามการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวเนื่องจากการหยุดชะล้างหน้าดินร่วมกับกรมพัฒนาที่ดิน อย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปี
ด้าน นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ที่ปรึกษาสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้เครื่องจักรไถพรวนหน้าดินในพื้นที่ลาดชันเพื่อทำไร่และการเผาหน้าดิน เป็นตัวเร่งการชะล้างพังทลายของดินอย่างรุนแรง ซึ่งพื้นที่แก่นมะกรูด จังหวัดอุทัยธานีเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญเป็นป่าต้นน้ำและป่ารอยต่อป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อพื้นที่เดิมทำการเพาะปลูกไม่ได้ ป่าก็เสี่ยงที่จะถูกบุกรุกเพิ่ม การดำเนินงานในโครงการดังกล่าว จะช่วยให้ชาวบ้านตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินและการบริหารจัดการพื้นที่ของตัวเองให้มีทั้งดินดี น้ำดี เพื่อคืนความอุดมสมบูณ์ให้ผืนป่า ซึ่งจะสร้างความยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและโลกในระยะยาว