ปัจจุบัน ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ มีโรงแรมอยู่ในญี่ปุ่น 43 แห่ง และในต่างประเทศอีก 31 แห่ง ซึ่งสามารถตอบสนองทุกความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้า เนื่องจากบริษัทฯ มีที่พักและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งการเดินทางเพื่อธุรกิจ เพื่อการท่องเที่ยว หรือเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ
สำหรับในญี่ปุ่น ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ มีโรงแรมขนาดใหญ่หลายแห่งซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงโตเกียวและรอบนอก รวมทั้งในเมืองและภูมิภาคที่เหมาะสำหรับตั้งรีสอร์ท เช่น เกียวโต และฮอกไกโด แต่ในอนาคตบริษัทฯ จะขยายการพัฒนาให้เป็นเครือข่ายด้านที่พักที่ครอบคลุมและแข็งแกร่ง ทั้งโรงแรมที่ตั้งอยู่ในเมือง รีสอร์ท สนามกอล์ฟ และสกี รีสอร์ท เพื่อให้บริการที่พักที่ครอบคลุมมากขึ้นแก่ลูกค้า ตามวิสัยทัศน์ของปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ ที่ต้องการเป็นหนึ่งในกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ ยังมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างห่วงใยสังคมและสิ่งแวดล้อม หนึ่งในตัวอย่างสำคัญคือ ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ ได้ประกาศเลิกใช้หลอดพลาสติกในโรงแรม43 แห่งมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 และเปลี่ยนไปใช้หลอดกระดาษแทน นอกจากนี้ยังจะเดินหน้าขยายการเลิกใช้หลอดพลาสติกในห้องอาหารภายในสกีรีสอร์ทและสนามกอล์ฟทั่วประเทศญี่ปุ่นที่ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ บริหารงานอยู่อีกด้วย
"ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ ต้องการเป็นแบรนด์โรงแรมที่ผู้บริโภคทั่วโลกรักและชื่นชอบ เราจึงมุ่งสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับแบรนด์ด้วยการปรับปรุงโรงแรมที่เปิดดำเนินการอยู่ในญี่ปุ่น และเร่งขยายโรงแรมและที่พักใหม่ๆ ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมาย เนื่องจากคนไทยมีอัธยาศัยที่ดีจนได้รับฉายาว่า "สยามเมืองยิ้ม" จึงคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เรามีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์จากการเป็น "ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ ในญี่ปุ่น" เป็น "ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ ที่มีอยู่ทั่วโลก" ด้วยการขยายไปยังประเทศต่างๆ" นายมาซาฮิโกะ โคยาม่า ประธาน ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ อินคอร์ปอเรชั่น กล่าว
ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ ยังมุ่งขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยในปี 2561 ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ อินคอร์ปอเรชั่น และสเตย์เวลล์ โฮลดิ้ง ได้เข้าซื้อกิจการของโรงแรม ดิอาร์ค ลอนดอน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเกรท คัมเบอร์แลนด์ เพลซ พร้อมทั้งจะเปลี่ยนชื่อโรงแรมเป็น ปริ๊นซ์ อะคาโตกิ ภายในปีนี้ จึงนับเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ปริ๊นซ์ อะคาโตกิ แห่งแรกที่ตั้งอยู่นอกประเทศญี่ปุ่น การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ ที่จะขยายธุรกิจไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้โรงแรมปริ๊นซ์ อะคาโตกิ ดำเนินงานโดยสเตย์เวลล์ โฮลดิ้ง ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บริหารจัดการโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวหลายแบรนด์ในเครือปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์
สำหรับในช่วงปี 2563 ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ มีแผนที่จะเปิดโรงแรมใหม่ 3 แห่งในญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการในจุดสำคัญ ได้แก่ โรงแรมโตเกียวเบย์ ชิโอมิ ปริ๊นซ์ โรงแรมปริ๊นซ์ สมาร์ทอินน์ เอบิสุ และโรงแรมปริ๊นซ์ สมาร์ทอินน์ อะตามิ
โรงแรมโตเกียวเบย์ ชิโอมิ ปริ๊นซ์
ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ จะเปิดบริการโรงแรมโตเกียวเบย์ ชิโอมิ ปริ๊นซ์ ในเดือนกรกฎาคม 2563 ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟชิโอมิ ที่เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างสถานีโตเกียวและสถานีไมฮามะของรถไฟสาย JR Keiyo จึงเป็นโลเคชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว เพราะอยู่ใกล้สถานที่จัดงานนิทรรศการและการประชุมสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นงานโตเกียว อินเทอร์เนชั่นแนล ฟอรั่ม และงานโตเกียว บิ๊กไซท์ รวมทั้งงานมาคูฮาริ เมสเซ่
ปริ๊นซ์ โฮเทล ยังเป็นผู้บริหารโรงแรมแห่งนี้ ซึ่งมีห้องพักทั้งหมด 605 ห้อง และห้องอาหาร 1 แห่งขนาดประมาณ 430 ที่นั่ง โรงแรมนี้สามารถรองรับผู้เข้าพักได้สูงสุดถึง 2,324 คน เนื่องจากมีห้องพักเตียงคู่ 500 ห้องที่สามารถประยุกต์ให้กลายเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่สำหรับ 4 คนได้ นอกจากนี้ยังมีห้องพักเตียงสองชั้นขนาดใหญ่ทั้งหมด 10 ห้องที่เด็กสามารถพักพร้อมกันได้สูงสุด 4 คนต่อห้อง และมีห้องเตียงคิงส์ไซส์ 93 ห้องที่รองรับได้ 3 คนต่อห้อง ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ ยังตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนโดยรอบโตเกียวเบย์ซึ่งเป็นเขตที่กำลังขยายตัว
โรงแรมปริ๊นซ์ สมาร์ทอินน์ เอบิสุ
ปริ๊นซ์ โฮเต็ลส์ จะเปิดให้บริการโรงแรม ปริ๊นซ์ สมาร์ท อินน์ เอบิสุ ในช่วงฤดูร้อนปี 2563 ในย่านเอบิสุ กรุงโตเกียว เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยนับเป็นโรงแรมแห่งแรกที่ใช้ชื่อแบรนด์ใหม่ของบริษัทฯ คือ "ปริ๊นซ์ สมาร์ทอินน์"
โรงแรมนี้ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟเอบิสุประมาณ 5 นาที และอยู่ห่างจากสถานีชิบูย่าเพียง 1 สถานี ซึ่งถือเป็นย่านที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ตัวโรงแรมประกอบด้วยห้องพัก 82 ห้อง ภายในห้องพักติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอัจฉริยะ เช่น เทคโนโลยีสื่อสาร และเอไอที่ก้าวล้ำตามคอนเซปท์ของแบรนด์ปริ๊นซ์ สมาร์ทอินน์ คือเป็น "นวัตกรรมโรงแรม เพื่อการพักผ่อน" บริษัทฯ วางแผนให้โรงแรมแห่งนี้เป็นที่พักสำหรับผู้ที่เดินทางมาเที่ยวโตเกียว และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ
บริษัทฯ วางตำแหน่งของ ปริ๊นซ์ สมาร์ทอินน์ ให้เป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงได้ติดตั้งนวัตกรรมการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าพัก รวมทั้งตอบโจทย์โลกยุคใหม่ที่มีเทรนด์ต่างๆ เกิดขึ้น เช่น การเติบโตของคนรุ่น "ดิจิทัล เนทีฟ" ที่มีความคุ้นเคยกับโลกดิจิทัล บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายโรงแรมภายใต้แบรนด์นี้ไปยังเมืองสำคัญในภูมิภาคอื่นๆ นอกโตเกียว ที่มีสนามบินและมีรถไฟชิงคันเซ็นให้บริการ
โรงแรม ปริ๊นซ์ สมาร์ทอินน์ อะตามิ
ในช่วงหน้าร้อนปี 2563 ปริ๊นซ์ โฮเทล จะเปิดให้บริการโรงแรม ปริ๊นซ์ สมาร์ทอินน์ อะตามิ โดยนับเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ใช้ชื่อแบรนด์ ปริ๊นซ์ สมาร์ทอินน์ ทั้งนี้อะตามิเป็นเมืองชายทะเลในจังหวัดชิสุโอกะที่อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวเพียง 40 นาทีโดยรถไฟ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวใกล้ๆ กับโตเกียว อะตามิยังเป็นเมืองตากอากาศที่ได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน โดยมีแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อทั้งทะเล ภูเขา บ่อน้ำพุร้อน และเส้นทางเดินเขาที่เห็นทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิ รวมทั้งยังสามารถมาลิ้มลองซูชิที่ใช้ปลาสดๆ ที่จับจากทะเลของอะตามิ เมืองนี้ยังมีชื่อเสียงในฐานะประตูสู่แหลมอิซึและภูเขาไฟฟูจิ