นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่ MSCI ปรับน้ำหนักหุ้นในรอบเดือนพฤษภาคม 2562 ส่งผลให้น้ำหนักหุ้นไทยและจีนเพิ่มขึ้นในดัชนี MSCI ทำให้ผู้ลงทุนต่างประเทศและผู้ลงทุนสถาบันปรับพอร์ตการลงทุนโดยซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายนอกที่สำคัญได้แก่การยกระดับการตอบโต้ในสงครามการค้าของทั้งจีนและสหรัฐอเมริกาเป็นปัจจัยกดดันบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในเอเชียปรับตัวลดลงในเดือนพฤษภาคม ในขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับตัวลดลง 3.2% เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อน ซึ่งลดลงน้อยกว่าตลาดเอเชียส่วนใหญ่
ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย
- ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2562 ปิดที่ 1,620.22 จุด เพิ่มขึ้น 3.6% จากสิ้นปี 2561 โดยกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างให้ผลตอบแทนมากกว่า SET Index
- ในเดือนพฤษภาคม 2562 ผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 3,752 ล้านบาท
- มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนพฤษภาคม 2562 อยู่ที่ 58,692 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากเดือนก่อน
- Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2562 อยู่ที่ระดับ 15.1 เท่า และ 17.5 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.9 เท่า และ 15.7 เท่าตามลำดับ
- อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2562 อยู่ที่ระดับ 3.23% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียที่อยู่ที่ 2.90%
- มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2562 อยู่ที่ 16.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% จากสิ้นปี 2561 สอดคล้องกับทิศทางของดัชนี
- ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยอยู่ที่ระดับ 7,887 ล้านบาท
ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
- ในเดือนพฤษภาคม 2562 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 358,249 สัญญา ซึ่งเพิ่มขึ้น 36% จากเดือนก่อน
"SET…Make it Work for Everyone"