นางสาวธิดาศิริกล่าวต่อไปว่า กองทุน K-PROP มีนโยบายเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารในหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั้งไทยและสิงค์โปร์ อาทิ หน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) และหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ทั้งนี้นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อปี 2559 กองทุน K-PROP มีการจ่ายปันผลมาอย่างต่อเนื่องทุกปี รวมแล้วทั้งสิ้น 9 ครั้ง เป็นเงิน 2.92 บาทต่อหน่วย โดยในรอบผลการดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมากองทุนมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 13.16% ต่อปี อีกทั้งผลการดำเนินงานย้อนหลังยังสามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี และ 3 ปีอยู่ที่ 14.72% ต่อปี และ 11.46% ต่อปี ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 14.65% ต่อปี และ 11.23%ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 62)
"กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอยู่ในระดับที่ต่ำ ประกอบกับค่าเช่าและอัตราการเช่าโดยรวมอยู่ในระดับที่ดี ขณะที่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ในประเทศสิงคโปร์ปรับตัวลงเล็กน้อย ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา จากความกังวลเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม REITs ยังคงปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดโดยรวมจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับลดลงมาก โดย REITs ที่มีผลประกอบการดีและมีความสามารถในการเพิ่มจำนวนเงินปันผล ยังคงปรับตัวดีขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา" นางสาวธิดาศิริกล่าว
นางสาวธิดาศิริกล่าวต่อไปว่า บลจ.กสิกรไทยยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศไทยและสิงคโปร์ แม้ว่าสินทรัพย์ประเภทนี้โดยรวมจะมี Valuation ที่ปรับตัวขึ้นมามาก แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกได้ปรับลดลงมากด้วยเช่นกัน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงจาก 2.68% มาอยู่ที่ 2.11%(ข้อมูล ณ 10 มิ.ย.62) ทำให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์น่าจะยังได้รับประโยชน์จากสภาพคล่องที่มีอยู่สูง จากการที่ธนาคารกลางหลักต่างๆ ของโลกมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ย และการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์ ยังมีอัตราจ่ายปันผลที่ประมาณ 5% ซึ่งสูงกว่าตลาดโดยรวม
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือติดต่อ KAsset Contact Center 0 2673 3888