ตลาดนัมเบอร์วัน ราม 2 ยกระดับตลาดสด 4.0 รองรับพร้อมเพย์ – บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เอื้อประโยชน์ผู้บริโภค – ร้านค้า

จันทร์ ๑๗ มิถุนายน ๒๐๑๙ ๑๕:๒๔
ตลาดนัมเบอร์วัน ราม 2 เตรียมเข้าสู่ตลาดสด 4.0 สนับสนุนร้านค้าภายในโครงการเพิ่มช่องทางการใช้จ่ายผ่านพร้อมเพย์และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หวังเพิ่มรายได้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดให้มากขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายสำหรับผู้บริโภค

คุณสุกัญญา สุวรรณนภาศรี กรรมการผู้จัดการบริษัท นัมเบอร์วันแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกลางปีของรัฐบาลที่เข้าช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเพิ่มวงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นจากเดิมเดือนละ 200 – 300 บาท เป็น 500 บาทต่อเดือนต่อคน ระยะเวลา 2 เดือน คือช่วงพฤษภาคมและมิถุนายน 2562 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่รัฐบาลอยู่ระหว่างรณรงค์เพิ่มช่องทางการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากเดิมผู้บริโภคสามารถใช้บัตรที่ร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีเครื่องรูดบัตร EDC เท่านั้นและตัวเครื่องเองมีต้นทุนสูงถึง 18,000 บาท ทำให้ช่องทางการใช้บัตรไม่ถูกกระจายเป็นวงกว้างไปยังร้านค้าขนาดเล็ก ส่งผลให้รัฐบาลจัดทำแอพพลิเคชั่น "ถุงเงินประชารัฐ" เพื่อรองรับผู้บริโภคที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้ามาเสริม

คุณสุกัญญา กล่าวต่อว่า เราในฐานะผู้พัฒนาตลาดนัมเบอร์วัน ราม 2 มองว่าจะทำอย่างไรถึงสามารถช่วยเหลือผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องการเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาด จากเดิมที่สนับสนุนการชำระค่าสินค้าผ่านบริการพร้อมเพย์ ซึ่งหลายร้านมีผลตอบรับค่อนข้างดี จึงตัดสินใจเปิดพื้นที่ให้หน่วยงานที่ดูแลด้านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งประกอบด้วยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย และทีโอที ลงพื้นที่ตลาดนัมเบอร์วันราม 2 เพื่อประชาสัมพันธ์แอพพลิเคชั่น "ถุงเงินประชารัฐ" หวังกระจายช่องทางให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการจับจ่ายมากขึ้น จากเดิมที่นำไปใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ได้นานหลายเดือน แต่นับจากนี้บัตรประชารัฐจะสามารถนำมาชำระค่าอาหารจากร้านค้าขนาดเล็กที่จำหน่ายอาหารสด อาหารสำเร็จรูป และอาหารตามสั่งได้ ซึ่งเหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยเป็นอย่างมาก

ด้านนางธัญพร หอมบุญมา เจ้าของร้านเจ๊หน่อยของชำ ตลาดนัมเบอร์วันราม 2 เปิดเผยว่า ครอบครัวของตนขายของชำในตลาดนัมเบอร์วันราม 2 มากว่า 20 ปี ที่ผ่านมาก็รับเงินสดจากลูกค้าตามปกติชนิดซื้อมาขายไป แต่ในช่วงหลังที่ออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้นทั้งบริการพร้อมเพย์ และแอพพลิเคชั่น ถุงเงินประชารัฐ ที่รัฐบาลจัดทำสำหรับร้านค้าเพื่อรองรับผู้บริโภคที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำให้เจ๊หน่อยมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่ไม่เคยมีมาก่อน จึงตัดสินใจเข้าสมัครเป็นร้านค้าที่รับบัตรประชารัฐ ซึ่งถือว่าผลตอบรับค่อนข้างดีเนื่องจากมีรายได้เพิ่มจากช่องทางนี้ เฉลี่ยวันละ 2,000 – 4,000 บาท แม้จะไม่ได้รับเงินสดทันที แต่จะได้เงินในวันถัดไปตามวันเวลาราชการทางร้านก็ยินดีเพราะมีสภาพคล่องค่อนข้างสูง

สำหรับจำนวนผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั่วประเทศ มีทั้งสิ้น 14.5 ล้านคน เป็นผู้อยู่อาศัยในเขตประเวศราว 1.6 หมื่นคน ซึ่งถือเป็นเขตที่มีผู้ลงทะเบียนเป็นลำดับต้นๆของกรุงเทพฯ ทั้งนี้ การเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ในปี 2562 จะเปิดรับช่วงเดือนพฤศจิกายน โดยแก้ไขให้ลงทะเบียนทั้งรายบุคคลและรายครอบครัว เพราะผู้สูงอายุบางคนไม่มีอาชีพแต่มีทรัพย์สิน นอกจากนี้ยังมีแนวคิดเปิดให้ลงทะเบียนซ้ำทุกปีเพื่อคัดกรองผู้มีสิทธิ์อย่างแท้จริง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO