สำหรับกรณีที่มีการขายทอดตลาดหุ้นและที่ดินของบริษัทย่อย 2 แห่งที่ผ่านมา เรื่องดังกล่าวนี้เป็นปัญหาที่อดีตกรรมการและผู้บริหาร และขณะนี้บุคคลดังกล่าวยังเป็นกรรมการในบริษัทย่อยดังกล่าวด้วย ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันกับผู้ถือหุ้นกู้บางราย เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2561 ก่อนที่คณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาบริหาร จนเป็นสาเหตุให้มีการขายทอดตลาดตามคำสั่งที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้คณะกรรมการชุดใหม่มิได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว ที่ผ่านมาได้ใช้ความพยายามที่จะหยุดการขายทอดตลาด มีการขอยื่นคัดค้านไปหลายครั้ง แต่สุดท้ายหุ้นและที่ดินก็ถูกขายทอดตลาด ขณะนี้บริษัทฯได้ตั้งทีมเพื่อประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น ว่ามีความเสียหายมากน้อยแค่ไหนจากการกระทำของอดีตกรรมการและผู้บริหาร เพื่อจะเร่งดำเนินการฟ้องร้อง เรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นคืนให้แก่บริษัทฯ ในส่วนคดีขณะนี้บริษัทฯได้มีการหารือร่วมกับทีมกฎหมาย เพื่อจะยับยั้งความไม่ถูกต้อง ความไม่ชอบมาพากลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นอย่างเต็มกำลังความสามารถเช่นกัน
ทั้งนี้นายทวิชกล่าวว่า "ความเสียหายที่บริษัทฯได้รับ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนผมและคณะกรรมการชุดใหม่จะเข้ามา เมื่อมาอยู่ในตำแหน่งนี้แล้วอะไรที่เห็นว่า ทำมาโดยความไม่ถูกต้อง เราก็ต้องกลับไปแก้ไขให้ถูกต้องและสิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องมองประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดแก่บริษัทฯ ดังนั้นอยากจะบอกว่า ในเรื่องของบริษัทมหาชนไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แต่ละปัญหาที่จะแก้ไขมีข้อกฎหมายมาเกี่ยวข้องมากมาย ประกอบกับปัญหาที่เกิดขึ้นสะสมมาเป็นระยะเวลาหลายปี อยากจะบอกกับทางนักเลงคีย์บอร์ดที่มีข้อเสนอแนะมาในขณะนี้ว่า ปัญหาดังกล่าวไม่ใช่ปัญหาเล็กๆที่จะแก้ไขกันง่ายๆ การทำงานเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย การที่คณะกรรมการชุดใหม่จะดำเนินการหรือกระทำอะไรไปนั้น ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการตัดสินใจ ตั้งแต่ที่ผมและคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาทำงานเป็นเวลาสามเดือน ไม่ว่าจะขยับตัวไปทิศทางใด ก็ถูกโจมตีมาโดยตลอด ผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของทัศนคติและมุมมองของคน ผมอยากเรียนให้ทุกท่านทราบว่า ที่ผ่านมาผมพยายามที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัทฯอย่างเต็มความรู้ความสามารถ เพราะเงินของทุกคนที่เข้ามาลงทุนตรงนี้มีค่า ไม่มีใครอยากเสียเงินของตัวเองไปฟรีๆแน่นอน ฉะนั้นอะไรที่ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย ย่อมมีผลกระทบต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ เจ้าหนี้ และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ผมและทีมบริหารต้องทำให้เต็มที่เพื่อป้องกันและเรียกร้องให้ผู้ที่กระทำผิดต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทฯให้มากที่สุดแน่นอน"
และจากประกาศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะให้มีการเปิดซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว 1 เดือน( 1-31 ก.ค.62) สำหรับหุ้นที่ถูกขึ้น SP นานเกินกว่า 3 เดือนนั้น เข้าใจว่าทาง IFEC ถือว่าเข้าข่ายดังกล่าวด้วย หากแต่ บริษัทฯเห็นว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทฯเอง ยังไม่มีความพร้อม ณ ขณะนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะด้านงบการเงิน สะสางหนี้ คดีความต่างๆ หากมีการเปิดให้ซื้อขายชั่วคราวอาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ถือหุ้นในวงกว้างค่อนข้างมาก จึงได้ยื่นหนังสือของดเว้นการซื้อขายชั่วคราวหุ้น IFEC ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงานกลต. เพื่อพิจารณา ทั้งนี้ผลการพิจารณาจะให้งดเว้นหรือเลื่อนการซื้อขายชั่วคราวออกไปหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้บริษัทฯพร้อมรับคำวินิจฉัยที่จะออกมา และจะเดินหน้าสะสางปัญหาต่างๆของบริษัทฯอย่างเต็มที่และถูกต้องต่อไป