สศก. ศึกษาระบบโซ่ความเย็น วางแนวทางพัฒนาระบบจัดเก็บ คงคุณภาพสินค้าเกษตรสู่ปลายทาง

อังคาร ๑๘ มิถุนายน ๒๐๑๙ ๐๙:๔๘
นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ระบบการบริหารจัดการโซ่ความเย็น (Cold Chain) ในสินค้าเกษตร เป็นระบบการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับการเก็บเกี่ยว การขนส่งการเก็บรักษา การกระจายสินค้า และการขายของสินค้า รวมถึงการใช้อุปกรณ์เครื่องมือ และการปฏิบัติเพื่อให้สินค้าคงความสดและมีคุณภาพ ให้ยาวนานที่สุด โดยมีเงื่อนไขที่สภาพของอุณหภูมิที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อการเก็บรักษาในแต่ละกระบวนการผลิต

ในปีงบประมาณปี 2562 สศก. ร่วมกับสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ได้ร่วมกันศึกษารูปแบบการพัฒนาระบบการบริหารจัดการโซ่ความเย็น (Cold Chain) ในสินค้าพืชผักและผลไม้ (อาทิ เงาะ ทุเรียน มังคุด ขนุน กะเพรา แตงกวา หน่อไม้ฝรั่ง และ เห็ด) ของสถาบันเกษตรกรในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) และพื้นที่ใกล้เคียง รวม 5 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด

จากการศึกษาพบว่า การบริหารจัดการโซ่ความเย็นที่มีประสิทธิภาพ สามารถรักษาคุณภาพและเพิ่มมูลค่าผลผลิตได้เป็นอย่างดี ซึ่งกระบวนการจัดการโซ่ความเย็นที่มีประสิทธิภาพจะเริ่มจากการจัดการผลผลิตของเกษตรกร และจัดส่งมายังสถาบันเกษตรกร เพื่อจัดการส่งต่อไปยังตลาดปลายทาง ตัวอย่างเช่น การจัดการโซ่ความเย็นในสินค้าทุเรียน ของสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด จ. จันทบุรี ซึ่งเป็นสหกรณ์ที่ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลไม้เพื่อกระจายสู่ตลาด ทั้งในและต่างประเทศ แต่ละปีรวบรวมผลผลิตได้ประมาณ 5,800 ตัน โดยเป็นทุเรียนประมาณ 1,000 ตัน ซึ่งปีที่ผ่านมาสหกรณ์ได้รับการสนับสนุนงบประมาณโครงการไทยนิยมยั่งยืนจำนวนกว่า 29 ล้านบาท และสหกรณ์สบทบเพิ่มอีก 12 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารห้องเย็น พร้อมอุปกรณ์แปรรูปผลไม้ เริ่มก่อสร้างตั้งแต่กลางปี 2561 และเสร็จสิ้นในเดือนเมษายน 2562

กระบวนการคัดแยกผลผลิต เกษตรกรสมาชิกจะตัดทุเรียนที่ระดับความสุกร้อยละ 70 และนำส่งสหกรณ์เพื่อทำการคัดแยกเกรด โดย เกรด A และ B จะจำหน่ายเป็นผลสด ซึ่งร้อยละ 90 ส่งไปจำหน่ายที่ประเทศจีน ที่เหลือร้อยละ 10 จำหน่ายตลาดในประเทศ ได้แก่ แมคโคร และเดอะมอลล์ ในขณะที่ทุเรียนตกเกรด มีการรับซื้อจากทั่วประเทศ จะถูกนำมาเก็บที่ลานด้านหน้าห้องเย็น เป้าหมายการรับซื้อ 1,000 ตัน/ปี ปัจจุบันรับซื้อได้ 885 ตัน โดยนำทุเรียนใส่ตะกร้าเหล็กโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี บรรจุ 300 - 350 กก./พาเลท วางซ้อนกันได้ 3 ชั้น หรือคิดเป็น 1-1.2 ตัน/ตั้ง (3 ชั้น) ช่วยให้ทุเรียนสุกได้พร้อมกัน สำหรับพื้นที่ลานด้านหน้าห้องเย็นสามารถรองรับทุเรียนสดได้ 300 - 400 ตัน โดยลานดังกล่าว มีหลังคาคลุมและมีพัดลมขนาดใหญ่ติดด้านบนเพื่อระบายอากาศ ใช้เวลาบ่มประมาณ 3 - 5 วัน เพื่อรอให้ทุเรียนมีระดับความสุกที่ร้อยละ 85 ก่อนเข้าสู่กระบวนการแกะเปลือกในห้องเย็น

กระบวนการแกะเปลือก เริ่มจากการเข็นตะกร้าทุเรียนสุกมาสู่กระบวนการผลิตแกะขั้ว ตัดเปลือกแยกเป็นพู แกะเนื้อวาง บนถาด ซึ่งถาดจะรองด้วยพลาสติกบาง และด้านล่างของถาดจะเป็นรูเพื่อช่วยถ่ายเทความเย็น เนื้อทุเรียนที่ได้คิดเป็นร้อยละ 30 ของน้ำหนักทุเรียนทั้งลูก แบ่งเป็น 4 เกรด ได้แก่ A B เนื้อดิบ และเนื้อเละ โดยเนื้อเกรด A - B จะถูกนำไปแช่แข็งที่อุณหภูมิ -35 ถึง -70 องศาเซลเซียส เก็บได้ประมาณ 1 ปี ปัจจุบันมี 250 ตันเนื้อ ซึ่งห้องเย็นสามารถรองรับได้สูงสุด 300 ตันเนื้อ หลังจากนั้นจะถูกส่งไปยังห้องเย็นของบริษัทในกรุงเทพต่อไป สำหรับเนื้อเละ จะนำไปกวนด้วยเครื่องกวน แล้วนำไปบรรจุถุงๆ ละ 5 กก. และบรรจุกล่องๆ ละ 20 กก. (4 ถุง) จำหน่ายให้บริษัท สเวนเซ่นส์ (ไทย) จำกัด

รองเลขาธิการ กล่าวต่อไปว่า สหกรณ์ที่ได้รับงบประมาณจัดสร้างห้องเย็น ทำให้เกษตรกรมีทางเลือกนำผลผลิตมาขายให้กับสหกรณ์ ส่งผลให้ราคาทุเรียนปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยมา จากปีที่แล้วกิโลกรัมละ 45 - 60 บาท เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 60 - 70 บาทในปีนี้ แสดงให้เห็นว่าการที่สหกรณ์เป็นตัวกลางรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรนั้น ส่งผลต่อการรักษาเสถียรภาพราคาผลไม้ของจังหวัดจันทบุรี และยังช่วยรัฐบาลประหยัดงบประมาณที่จะต้องนำไปใช้แทรกแซงราคาผลไม้ให้กับเกษตรกรปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาความสูญเสียในห้องเย็นประมาณ ร้อยละ 1 อันเนื่องมาจากฝุ่นที่มาจากเปลือก จึงต้องดูแลความสะอาดของทุเรียนก่อนเข้ากระบวนการแปรรูปให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีปัญหากระแสไฟฟ้าดับ จึงควรจัดทำระบบไฟสำรองและแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ข้อมูลการศึกษาการจัดการโซ่ความเย็นของทุเรียนของสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด จ. จันทบุรี รวมทั้งข้อมูลจากการศึกษาสหกรณ์ให้แหล่งอื่นๆ สศก. จะนำมาวิเคราะห์เชิงลึกในภาพรวมของระบบการจัดการโซ่ความเย็นของสถาบันเกษตรกร เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางการพัฒนาเพื่อการบริหารจัดการโซ่ความเย็นในสินค้าพืชผักและผลไม้ของสถาบันเกษตรกรให้มีประสิทธิภาพต่อไป สำหรับท่านที่สนใจข้อมูลผลการศึกษา สามารถสอบถามได้ที่ ส่วนนโยบายและแผนพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ด้านการเกษตร กองนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โทร. 0 2579 3757 ในวันและเวลาราชการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก