กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ดึงพันธมิตร บริษัท โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมการเจรจาธุรกิจ (Business Matching) เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อ พบผู้ขาย มาเจรจาธุรกิจร่วมกัน มากกว่า 200 ราย ทั่วประเทศ เพื่อช่วยขยายช่องทางการตลาด การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์โอทอป ทั้งในระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ เป็นครั้งแรก!!! ภายในงาน OTOP Midyear 2019 ระหว่างวันที่ 15-23 มิถุนายน 2562 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี หวังผลักดันการจำหน่ายสินค้าโอทอปเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 900 ล้านบาทตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ประธาน บริษัท โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "ปัจจุบันสภาพการตลาดสินค้าโอทอปในประเทศได้พัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าเดิม การที่จะนำพาสินค้าโอทอปเข้าสู่ระบบการตลาดสากล จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาให้เหมาะสมกับยุคสมัย กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เล็งเห็นความสำคัญการทำการตลาด และการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าโอทอปทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้มอบหมายให้บริษัทโอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ จัดกิจกรรมการเจรจาทางธุรกิจ (Business Matching) เพื่อส่งเสริมช่องทางการตลาด การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์โอทอปในการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดย บริษัท โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ มีการเชิญกลุ่มผู้ขายเข้าร่วมแสดงและจำหน่ายสินค้าทั้งในระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค และระดับประเทศมากกว่า 200 ราย ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรกภายในบูธของ OTOP Intertrader ภายในงาน OTOP Midyear 2019 ทั้งนี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจของกลุ่มผู้ประกอบการทุกระดับได้มาเจราจากันโดยตรง โดยได้ทำการแบ่งกลุ่มเจรจาออกเป็นประเภทสินค้าต่างๆ ของแต่ละภาค เพื่อให้ง่ายต่อการเจรจา และมีทีมให้คำปรึกษา ภายในบูธจัดให้มีการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอปผ่านศูนย์จำหน่ายสินค้า OTOP OUTLET เป็นศูนย์รวมสินค้าโอทอปจากทั่วประเทศ ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดและให้เกิดมูลค่าการซื้อขายในงาน"
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า "การจัดงาน "OTOP Midyear 2019 : OTOP Signature รักษาเอกลักษณ์ สร้างนวัตกรรม" เป็นการรวบรวมผู้ประกอบการสินค้าและผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีศักยภาพกว่า 2,000 บูท ภายใต้กิจกรรมที่หลากหลาย ยังมีกิจกรรมพิเศษจัดขึ้นเป็นปีแรกในงาน OTOP Midyear 2019 ในโครงการกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เนื่องจากว่าปัจจุบันมีผู้ผลิตสินค้าโอทอปเพิ่มขึ้นมากมายแต่บางรายยังประสบปัญหาด้านการพัฒนาสินค้า ด้านช่องทางการกระจายสินค้า กรมการพัฒนาชุมชนเห็นความสำคัญการทำการตลาด และการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าโอทอปในระดับประเทศและต่างประเทศ จึงได้มอบหมายให้บริษัท โอทอป อินเตอร์เทรดเดอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ดูแลจัดกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพื่อเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าของประเทศไทยให้สามารถเชื่อมโยงกับผู้ซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ
งาน OTOP Midyear 2019 เราจัดอย่างยิ่งใหญ่ในรูปแบบวิถีไทย วิถีถิ่น วิถีกิน สี่ภาค เพื่อให้ผู้เข้าร่วมชมงานได้เลือกซื้อสินค้า OTOP อัตลักษณ์จังหวัด รวมถึงสินค้า OTOP นวัตกรรมทั่วไทย เรียกได้ว่าเป็นงานที่รวมของดี มีของครบ พบนวัตกรรม ซึ่งนอกจากจะมีสินค้าคุณภาพมากมายให้เลือกซื้อแล้ว ยังมีกิจกรรมความบันเทิงจากศิลปินอัดแน่นตลอดทั้ง 9 วันด้วย"
นางสริตา จินตกานนท์ ผู้ชำนาญการ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากลยุทธ์องค์กร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า "สสปน. ขับเคลื่อนโครงการ Empower Thailand Exhibition (EMTEX) มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าของประเทศไทย โดยให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของงาน OTOP Midyear 2019 เพื่อยกระดับการจัดงานแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์โอทอปที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ โดย สสปน.ให้การสนับสนุนเป็นที่ปรึกษาตลอดจนให้คำแนะนำการเพิ่มประสิทธิภาพการขยายตลาด กิจกรรมส่งเสริมการขายและการประชาสัมพันธ์ รวมถึงการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจครั้งนี้ด้วย และพร้อมให้การผลักดันในระยะยาวอย่างเต็มที่ ซึ่งการสนับสนุนงานในครั้งนี้ถือเป็นการผลักดันงานแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจ (Trade Exhibition) ของสินค้าผลิตภัณฑ์โอทอปจากทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตโดยกลไกของงานแสดงสินค้า"
นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "การจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ผู้ซื้อพบผู้ขาย จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจดันยอดขายจากการจัดการเจรจาธุรกิจ โดยตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขาย 10 ล้านบาท ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ให้ชุมชน นอกจากนี้ ภายในงานมีกิจกรรมเสวนาให้ความความรู้ ภายใต้หัวข้อ "ช่องทางการตลาดในปัจจุบันและทิศทางของ โอทอปในอนาคต"