นายนิติพัทญ์ ยงค์สงวนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตรสิบ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) MITSIB เปิดเผยว่า ภายหลังนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หรือ mai เรียบร้อยแล้วในช่วงที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ ยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามแผนที่ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยืนยันผู้ถือหุ้นเดิมไม่มีการเทขายหุ้นในตลาดอย่างแน่นอน อีกทั้งก่อนหน้านี้ ผู้บริหารเดิมได้มีความยินยอมพร้อมใจ และมีมติเป็นเอกฉันท์จากการประชุมผู้ถือหุ้น ว่าจะไม่มีการขายหุ้นที่ถืออยู่ตามที่เคยประกาศเอาไว้ก่อนเข้าจดทะเบียนเข้าซื้อขาย
"ผมในตัวแทนผู้ถือหุ้นเดิมขอยืนยันว่ากลุ่มผู้บริหารเราไม่มีการเทขายหุ้นตามที่มีการสงสัยแน่นอน อีกทั้งเราได้มีการหารือในที่ประชุม ผู้ถือหุ้นเดิมทุกท่านต่างมีความสมัครใจ ว่าจะไม่มีการนำหุ้นที่ถืออยู่ออกมาขาย และจากที่ผมได้รายงาน ก.ล.ต. ไปเมื่อวานนี้ ผมยังได้มีการเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่ม เพื่อยืนยันความมั่นใจในพื้นฐานหุ้น อีกทั้งการที่ได้ดำเนินธุรกิจร่วมกันมายาวนานกว่า 16 ปี กลุ่มผู้บริหารทุกท่านต่างมีความมั่นใจในศักยภาพของหุ้นที่สามารถเติบโตได้ .....เรายังมีแผนการในอนาคตที่รองรับการเติบโตของธุรกิจที่ค่อนข้างชัดเจนทั้งในระยะสั้น และระยะยาว" นายนิติพัทญ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตในส่วนของธุรกิจเดิมเพิ่มขึ้นประมาณ 30-35% จากพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะ ณ สิ้นปี 2561 ที่ 3,000 สัญญา โดยมีมูลค่ากว่า 1,500-1,600 ล้านบาท
นายนิติพัทญ์ กล่าวเพิ่มว่า หลังจากบริษัทฯ ได้เงินไอพีโอเข้ามาแล้ว จะนำส่วนหนึ่งไปชำระหนี้จากสถาบันการเงิน ช่วยสนับสนุนในส่วนธุรกิจใหม่ ส่งผลให้โครงสร้างรายได้บริษัทปีนี้จะมาจากธุรกิจเดิมประมาณ 90% และอีก 10% เป็นธุรกิจใหม่ (สินเชื่อภายใต้การกำกับของ ธปท. และธุรกิจประกันภัย) และในปี 2563 คาดรายได้จากธุรกิจใหม่จะเพิ่มเป็น 20-25% ส่วนธุรกิจเดิมสัดส่วนจะเป็น 75-80%
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนการในอนาคตที่รองรับการเติบโตของธุรกิจที่ค่อนข้างชัดเจนทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เช่น การให้บริการแอพพลิเคชั่นใหม่ ภายใต้ชื่อAPP TAXI ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัทไทยที่ประกอบกิจการด้านรถแท็กซี่ และบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพด้านอื่นๆ ให้ดียิ่งขึ้น ทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ ยังมีการเติบโตที่ดีในระยะยาว อนึ่ง MITSIB เข้าเทรดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา ด้วยราคาเปิดที่ 2.64 บาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากราคาขาย IPO