นายชูเกียรติ ยงวงศ์ไพบูลย์ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เพิ่มสินสตีลเวิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PERM หนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในปี 2562 จะเห็นภาพการจัดโครงสร้างของกลุ่มธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น จากการลงทุนและแผนขยายไปยังธุรกิจต้นน้ำ รองรับความต้องการของตลาด และเพิ่มฐานการเติบโตให้แข็งแกร่ง
ด้วยจุดเด่น เพิ่มสินสตีลเวิคส์ มีประสบการณ์ในธุรกิจยาวนานกว่า 30 ปี ประกอบธุรกิจซื้อมาขายไป แปรรูปเหล็กแผ่นรีดร้อน และแผ่นเหล็กรีดเย็น ทั้งจากการนำเข้าและจัดซื้อภายในประเทศ เพื่อป้อนให้กับลูกค้าในประเทศที่ดำเนินธุรกิจหลากหลาย อาทิ อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์เหล็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนผู้ผลิตท่อและการก่อสร้าง เป็นต้น อีกทั้ง บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านการแปรรูปเหล็กแผ่นทุกประเภท โดยใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีอันทันสมัย พร้อมด้วยทีมงานวิศวกรที่มีความชำนาญ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้สูงสุด และในปี 2561 บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัท เอ็มพาวเวอร์สตีล จำกัด อยู่ภายใต้ บริษัท ซันเทคสตีล จำกัด (Suntech) เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตให้กลุ่มบริษัทในอนาคต
ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงสร้างของกลุ่มบริษัท ประกอบด้วย บริษัท เพิ่มสินสตีลเวิคส์ จำกัด (มหาชน) (PERM) เป็นบริษัทแม่ ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท แอตแลนติกไปป์ จำกัด (Atlantic Pipe) สัดส่วน 99.99% บริษัท ซันเทคสตีล จำกัด (Suntech) สัดส่วน 99.99% ซึ่งซันเทคสตีล เป็นบริษัทแม่ ที่ถือหุ้นใหญ่ใน บริษัท เอ็มพาวเวอร์สตีล จำกัด สัดส่วนไม่ต่ำกว่า 90% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด
นอกจากนี้ บริษัทแสงไทย เมทัลชีท จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตหลังคาเมทัลชีทรายใหญ่ในประเทศ และ MR. JASON THOMAS ELLIS อดีตประธานบริษัท บลูสโคปสตีล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจะเป็นผู้ดูแลตลาดต่างประเทศ ได้มาร่วมลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นในโครงการ Empower ซึ่งจะถือหุ้นในโครงการ Empower รวมกันไม่เกิน 10% ของทุนจดทะเบียน
นางชไมพร ยงวงศ์ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท เอ็มพาวเวอร์สตีล จำกัด เปิดเผยว่า ได้เข้าลงทุนในโครงการผลิตเหล็กเคลือบสี (โครงการ Empower) ดำเนินภายใต้กลยุทธ์การขยายตัวไปสู่ธุรกิจต้นน้ำ เพื่อทดแทนการจัดซื้อจากผู้ผลิตรายอื่น หรือการนำเข้าจากต่างประเทศ จากเดิม กลุ่มบริษัทซันเทคสตีล ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ดำเนินธุรกิจแปรรูปและจำหน่ายแผ่นเหล็กเคลือบสีรายใหญ่ในอุตสาหกรรม เพื่อนำไปใช้เป็นหลังคาและผนังอาคารโรงงานและสิ่งก่อสร้างต่างๆ อยู่แล้ว จึงนับเป็นการขยายฐานลูกค้าในธุรกิจเดิม และรุกขยายไปยังลูกค้ารายใหม่
โดยโครงการ Empower มีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท แหล่งที่มาของเงินทุนครั้งนี้ มาจากเงินลงทุนของ PERM ผ่าน Suntech จำนวน 400 ล้านบาท และได้รับการสนับสนุนเงินกู้ในการซื้อเครื่องจักร จากบริษัท บีเอสแอล ลีสซิ่ง จำกัด โดยเงินลงทุนของบริษัทฯ จำนวน 400 ล้านบาท มาจากการเพิ่มทุนโดยการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (RO) จำนวนประมาณ 230 ล้านบาท และเงินที่ได้รับจากการขายที่ดินให้กับโครงการ Empower จำนวนประมาณ 170 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายหลังจากโครงการ Empower เริ่มดำเนินการแล้ว คาดว่าจะใช้เงินทุนหมุนเวียนอีกไม่เกิน 688 ล้านบาท ซึ่งจะใช้การกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินเป็นหลัก
นางสาวณัฐพร ยงวงศ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มพาวเวอร์สตีล จำกัด เปิดเผยว่า โครงการ Empower มีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการก่อตั้งโรงงานในพื้นที่เดิมของบริษัท ประมาณ 50 ไร่ (ซื้อจาก PERM ตามราคาประเมิน) และมีการลงทุนในสินทรัพย์หลักๆ ต่อไปนี้ ที่ดิน 170 ล้านบาท อาคารโรงงาน 209 ล้านบาท ส่วนควบและอาคารสนับสนุน 151 ล้านบาท ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 20 ล้านบาท เครื่องจักร 448 ล้านบาท สำรอง 20 ล้านบาท
โดยโครงการดังกล่าวจะมีกำลังผลิต 100,000 ตัน/ปี คาดเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/2563 และจากการประมาณการผลการดำเนินงานในอนาคต คาดว่า โครงการนี้จะให้ผลตอบแทน (IRR : Internal Rate of Return) ประมาณ 15.31% และใช้เวลาในการคืนทุน (Payback period) ประมาณ 8 ปีเศษ
จึงมั่นใจว่า การลงทุนครั้งนี้ จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้กลุ่มบริษัทได้อย่างคุ้มค่า มั่นคง ในระยะยาว เนื่องจากสินค้ามีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ ตามการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม และการทดแทนวัสดุก่อสร้างแบบเก่าที่ล้าสมัยและมีต้นทุนสูงในการก่อสร้าง อีกทั้ง ธุรกิจนี้มีการแข่งขันจำกัด เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ผลิตในประเทศเพียงรายเดียวสำหรับสินค้าประเภทนี้ ในขณะที่บริษัทแม่ ซันเทคสตีล เป็นผู้ค้ารายใหญ่ที่มีบทบาทหลักในอุตสาหกรรม มีความรู้ ความชำนาญ มีศักยภาพสูงในการกระจายสินค้า
ล่าสุด เอ็มพาวเวอร์สตีล ได้ทำสัญญาซื้อเครื่องจักรจากกลุ่มบริษัทในเครือ SMS GROUP GERMANY เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยระดับโลก โดยบริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าที่หลากหลาย ได้แก่ ผลิตเหล็กปิ๊กเกอร์ เหล็กขาว เหล็กสังกะสี เหล็กอะลูซิงส์ และเหล็กสี สามารถเพิ่มนวัตกรรมลวดลาย ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้เพิ่มขึ้น และการขอใบอนุญาตมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. เป็นจุดแข็งสำคัญในการรุกตลาดในครั้งนี้
Mr. Dirk Borgmann ผู้บริหาร SMS GROUP กล่าวถึง กลุ่มบริษัทเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรอุตสาหกรรมเหล็กครบวงจรระดับโลก ที่มีความทันสมัย และโดดเด่นในด้านคุณภาพการผลิต ด้วยเทคโนโลยีจาก SMS GROUP สนับสนุนให้ เอ็มพาวเวอร์สตีล สามารถผลิตสินค้าได้อย่างหลากหลาย และมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์งานก่อสร้างให้โดดเด่นยิ่งขึ้น