นางสรันทิพย์ เลิศปัญญาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอแอมไชน่าทาวน์ จำกัด เปิดเผยว่า "บริษัทฯ เตรียมที่จะเปิดให้บริการโครงการ I'm Chinatown อย่างเต็มรูปแบบภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ หลังงาน
ก่อสร้างในทุกส่วนรุดหน้าไปมากกว่า 80% แล้ว โดยโครงการนี้ประกอบไปด้วยธุรกิจอสังหาฯ 3 ส่วน ได้แก่ คอนโดมิเนียม โรงแรม และศูนย์การค้า ตั้งอยู่บนเนื้อที่ขนาดกว่า 3 ไร่ของถนนเจริญกรุง บริเวณหน้าสถานี
รถไฟฟ้าใต้ดินวัดมังกรกมลาวาส ทำให้กลายเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่มีขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดของย่าน เยาวราช"
"นอกจากด้านงานก่อสร้างที่ใกล้จะแล้วเสร็จ ในธุรกิจส่วนต่างๆ ก็มีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ โดยในส่วนของ คอนโดมิเนียมที่ใช้ชื่อว่า I'm Chinatown Residence เป็นอาคารโลวไรส์สูง 8 ชั้น มีพื้นที่รวมประมาณ 2,000 ตารางเมตร เป็นคอนโดมิเนียมแบบตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ ขนาดตั้งแต่ 20-25 ตารางเมตร มียอดจองเต็ม 100% ตั้งแต่เปิดจองได้ไม่นาน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้อยู่อาศัยและผู้ประกอบการในย่านเยาวราชเดิมอยู่แล้ว ในขณะที่ ส่วนของโรงแรม บริษัทฯ ได้บรรลุข้อตกลงกับเชนโรงแรมชั้นนำของเมืองไทยในการเข้ามาบริหารโรงแรมระดับ 4 ดาว จำนวน 224 ห้อง และได้กำหนดอัตราค่าห้องพักต่อคืน เริ่มต้นที่ 2,400 บาท ซึ่งมั่นใจว่าจะมีอัตราการเข้าพัก หรือ Occupancy Rate ไม่ต่ำกว่า 90% ตลอดทั้งปี โรงแรมซึ่งตั้งอยู่ชั้น 4-8 ของศูนย์การค้าแห่งนี้จะกลายเป็น จุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของเหล่านักท่องเที่ยวและนักธุรกิจชาวต่างชาติที่เดินทางมาพักผ่อนหรือทำธุรกิจใน กรุงเทพฯ และต้องการสัมผัสเสน่ห์ของไชน่าทาวน์ โดยมองหาที่พักที่เดินทางสะดวก สะอาด และทันสมัย รายล้อม ไปด้วยร้านอาหารขึ้นชื่อมากมาย"
นางสรันทิพย์ กล่าวเสริมว่า "ในส่วนของศูนย์การค้า ซึ่งจัดว่าเป็นศูนย์การค้าเต็มรูปแบบเพียงแห่งเดียวของย่าน เยาวราช ปัจจุบัน บริษัทฯ สามารถปล่อยเช่าพื้นที่ได้แล้วถึง 95% และคาดว่าจะครบ 100% ภายในไตรมาส 3 นี้
โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากการปล่อยเช่าพื้นที่อยู่ที่กว่า 100 ล้านบาทต่อปี ในส่วนของร้านค้า ภายในศูนย์ฯ ทางบริษัทฯ ได้มีการผสมผสานสินค้าและบริการให้มีความหลากหลาย เพื่อตอบรับความต้องการ ของกลุ่มลูกค้าที่เป็นทั้งคนที่มาเที่ยวหรือช้อปปิ้งย่านเยาวราช พ่อค้าแม่ค้า นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจชาวต่างชาติ โดยแบ่งออกเป็น 4 ชั้น"
"ชั้น B จะเป็นศูนย์รวมของฝากชื่อดังของย่านเยาวราช รวมถึงกูร์เมต์ไทย ทั้งยังมีร้านให้บริการด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับไลฟ์สไตล์ประจำวันของผู้มาใช้บริการที่โครงการฯ ส่วนชั้น 1 และ 2 จะเป็นโซนร้านอาหาร เครื่องดื่มแบรนด์ชั้นนำ เช่น Starbucks, KFC, Dairy Queen, Yi Fang, Bar B Q Plaza, MK, Yayoi, Krispy Kreme, Hachiban Ramen, New York Deli, Jamba Juice และลิ้มจิงเฮียง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีศูนย์อาหารซึ่งรวบรวมร้านอาหารสตรีทฟู้ดชื่อดังจากทั่วกรุงเทพฯ สำหรับชั้น 3 จะเป็นโซนเฮลท์แอนด์บิวตี้ที่มีร้านไฮไลท์ เช่น Jetts Fitness และ Let's Relax Spa เป็นต้น"
นอกจากนี้โครงการ I'm Chinatown ยังมีที่จอดรถชั้นใต้ดิน 6 ชั้น รองรับรถยนต์ได้มากกว่า 300 คัน ซึ่งเป็นที่จอดรถที่ใหญ่ที่สุดในย่านเยาวราชอีกด้วย
"เยาวราชเป็นทำเลศักยภาพลำดับต้นๆ ของเมืองไทย มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีวิถีชีวิตที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว เป็นแหล่งธุรกิจที่มีเอกลักษณ์ จนได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนมังกร ทำให้มีดีมานด์สูงทั้งในด้านที่อยู่อาศัย
ที่ค้าขาย และที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ นอกจากนี้ การเดินทางมายังย่านเยาวราชก็กำลังจะสะดวก ยิ่งขึ้น เพราะโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค กำลังจะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคมนี้ บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าโครงการ I'm Chinatown ที่มีกำหนดเปิดอย่างเต็มรูปแบบ ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีในทันที และกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของย่านเยาวราชในอนาคตอันใกล้" นางสรันทิพย์ กล่าวทิ้งท้าย