บลจ.ธนชาต เพิ่มทุน T-MultiIncome 5,000 ล้าน หลังผลตอบรับเกินคาด เชื่อกองทุนผสมสร้างรายได้เป็นทางออกยุคดอกเบี้ยยังต่ำ

อังคาร ๒๕ มิถุนายน ๒๐๑๙ ๑๓:๔๖
บลจ.ธนชาต เล็งเพิ่มทุนกองทุน T-MultiIncome อีก 5,000 ล้าน หลังเปิดขายรอบ 2 มีเงินเข้ากองทุนเกือบ 9,000 ล้านบาท เชื่อกองทุนนี้ได้รับความนิยม เพราะคอนเซปต์กองทุนน่าสนใจ เหมาะกับสภาวะตลาดที่คาดว่าดอกเบี้ยทั่วโลกจะต่ำต่อไป

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจดทะเบียน กองทุนเปิดธนชาตมัลติอินคัม (T-MultiIncome) เพิ่มอีก 5,000 ล้านบาท เนื่องจากในรอบการเปิดขายเมื่อวันที่ 4–10 มิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้สนใจลงทุนในกองทุนนี้จำนวนมากจนทำให้ขนาดกองทุนปัจจุบันอยู่ที่ 8,978 ล้านบาท (ณ วันที่ 20 มิ.ย. 62) ซึ่งเริ่มใกล้เคียงกับขนาดกองทุนที่จดทะเบียนไว้ 10,000 ล้านบาท ประกอบกับจะมีการเปิดขายรอบใหม่อีกครั้ง ในวันที่ 1–5 กรกฎาคม และคาดว่าจะยังมีผู้สนใจลงทุนในกองทุนนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้ขนาดกองทุนที่เดิมจดไว้ไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ลงทุน

การที่ดอกเบี้ยทั่วโลกยังอยู่ในระดับต่ำ และมีแนวโน้มว่าธนาคารกลางประเทศสำคัญทั่วโลกน่าจะมีการทยอยลดดอกเบี้ยลง เพื่อประคับประคองการขยายตัวของเศรษฐกิจ นำโดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แม้ว่าล่าสุดจะประกาศคงดอกเบี้ย แต่ก็มีท่าทีว่าพร้อมจะลดดอกเบี้ยในปีนี้ ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดน่าจะปรับลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งภายในปีนี้ นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ก็มีการส่งสัญญาณพร้อมปรับลดดอกเบี้ยลง สอดคล้องกับเฟดอีกเช่นกัน ซึ่งล้วนเป็นผลมาจากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และปัญหาสงครามการค้าของสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อ ไม่ใช่เฉพาะกับจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกับประเทศคู่ค้าอื่นๆ ด้วย

จากสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยที่จะลดต่ำลงในระยะถัดไป เชื่อว่าจะทำให้การลงทุนในหุ้นคุณภาพดี กองทุนอสังหาริมทรัพย์ และตราสารหนี้ระยะยาว สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ลงทุน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการลงทุนของ กองทุนเปิดธนชาตมัลติอินคัม T-MultiIncome ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุน โดยเน้นลงทุนในสินทรัพย์สร้างรายได้อย่างหุ้นปันผล กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนอสังหาริมทรัพย์ และตราสารหนี้คุณภาพดี โดยทีมผู้จัดการกองทุนของ บลจ.ธนชาต จะปรับสัดส่วนการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ตามสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา เพื่อหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดภายใต้ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมให้กับผู้ลงทุน เพราะการผสมและปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างสินทรัพย์แต่ละกลุ่ม จะช่วยทำให้มีโอกาสที่ผลตอบแทนระหว่างทางของกองทุนมีความสม่ำเสมอมากขึ้น

สำหรับมุมมองทิศทางการลงทุนหุ้นไทยในปีนี้ เชื่อว่าจะมาจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ทั้งทิศทางของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนว่าจะคลี่คลายลงหรือตึงเครียดขึ้นเพียงใด รวมไปถึงการไหลของกระแสเงินในแต่ละภูมิภาคก็จะเป็นตัวกำหนดเช่นกัน

"บลจ. ธนชาต ยังเชื่อว่าในครึ่งหลังของปี 2562 ตลาดหุ้นไทยยังมีทิศทางที่ดีอยู่ จากแนวโน้มดอกเบี้ยที่คาดว่าจะลดลงทั่วโลก คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะขึ้นลงไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดต่างประเทศ ประกอบกับมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค พบว่าไทยยังมีทุนสำรองอยู่ในระดับที่สูงมาก และประเทศไทยยังเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ แม้การส่งออกในระยะนี้จะหดตัวก็ตาม นอกจากนี้ ยังคาดว่ารัฐบาลชุดใหม่จะมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อไป ประเมินว่าหุ้นไทยปีนี้จะเทรดในกรอบ 1,630 - 1,780 จุด โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากเม็ดเงินลงทุนนี้ คือ กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่และหุ้นปันผล"

"ผลงานของกองทุน T-MultiIncome ก็สามารถทำได้ดีและน่าสนใจ หลังจากเปิดขายประมาณ 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม – 21 มิถุนายน 62 สามารถทำผลตอบแทนไปแล้ว 3.01% (ความผันผวนผลการดำเนินงาน 2.77%) เทียบกับดัชนีอ้างอิงมาตรฐานที่ 3.40% (ความผันผวนดัชนีอ้างอิงมาตรฐาน 4.10%) และได้รับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 62 ในอัตรา 0.1 บาทต่อหน่วย" นายบุญชัย กล่าว

กองทุน T-MultiIncome เหมาะกับผู้ที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นได้ สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว เนื่องจากผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนได้ก่อนวันที่ 12 มีนาคม 2563 โดยมีนโยบายจ่ายคืนผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนในรูปแบบการรับซื้อคืนอัตโนมัติ (Auto Redemption) โดยจะจ่ายคืนไม่เกินปีละ 4 ครั้ง เปิดขายครั้งถัดไประหว่างวันที่ 1-5 กรกฎาคม นี้ โดยลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 50,000 บาท ส่วนครั้งถัดไปขั้นต่ำ 1,000 บาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมขอรับหนังสือชี้ชวนได้ในวันและเวลาทำการเสนอขายที่ บลจ.ธนชาต โทรศัพท์ 0-2126-8399 กด 0 หรือ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร. 1770 หรือผู้สนับสนุนการขาย หรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ บลจ.ธนชาต แต่งตั้ง www.thanachartfund.com

คำเตือน

- เอกสารวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการกองทุน

- ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วง 1 ปีแรกได้ หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน อาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมากได้

- ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

- ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

- การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับเงินลงทุน มากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

- กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในต่างประเทศและป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุนจึงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

- หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version