ทั้งนี้ในงานได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีกระทรวงด้านเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ผู้แทนระดับสูงสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เอกอัครราชทูต ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ภาควิชาการ หอการค้า จากประเทศสมาชิก CLMVT และหอการค้าแห่งชาติ เช่น สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ รวมกว่า 500 คน เข้าร่วมงานประชุม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาคเอกชนต้องมีการเตรียมความพร้อม และป้องกันความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในตลาดโลก เพื่อให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดและแข่งขันได้ โดยภูมิภาค CLMVT จำเป็นต้องยกระดับห่วงโซ่คุณค่าของภูมิภาค เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงในเครือข่ายการผลิตโลกได้ต่อไป ทั้งในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาธุรกิจการเกษตร สิ่งทอ ยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์
นายจิตติ กล่าวว่า ในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียน การประชุมในด้านต่างๆ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้อย่างมาก โดยเฉพาะการได้เห็นทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ชัดเจน จะส่งผลต่อการเจรจาและการลงทุนต่อเนื่องได้ในอนาคต