จากผลการวิจัยพบว่า ไก่สายพันธ์ KKU ONE พบปริมาณกรดยูริคต่ำกว่าไก่เนื้อทางการค้าที่เลี้ยงในโรงเรือนปรับอากาศ เนื่องจากอาหารของไก่เนื้อมีสารพิวรีนสูง ในขณะเดียวกันพบว่า สายพันธุ์ KKU ONE พบไขมันในช่องท้องต่ำ และมีโปรตีนชนิดย่อยง่ายสูง มีปริมาณคอเลสเตอรอลต่ำกว่าไก่ทางการค้าลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ ฉะนั้นด้วยคุณสมบัติของการผสมสายพันธุ์ระหว่างไก่เนื้อกับไก่พื้นเมือง จึงได้สายพันธุ์ไก่ที่ตอบทุกโจทย์ปัญหาสุขภาพ นำไปสู่การขับเคลื่อนตลาดเชิงพาณิชย์ " KKU ONE เหมาะเป็นอาหารผู้สูงวัย นักกีฬา ซึ่งปัจจุบันโลกก็ก้าวสู่สังคมสูงวัยและผู้รักสุขภาพ ปัจจุบันมีการขยายไก่พันธุ์ KKU ONE ให้แก่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ส่วนในประเทศได้ทำข้อตกลง เป็นไก่ประชารัฐ ตลาดร้านอาหารตำมั่วขึ้นห้าง ฟู้ดแลนด์ สร้างรายได้ให้เกษตรกร โดยประชารัฐส่งเสริมเกษตรกรในจังหวัดขอนแก่นกว่า20อำเภอให้เลี้ยง และประชารัฐรับซื้อ เกษตรกรจะได้ 20 บาทต่อกิโลกรัม การันตีรายได้ขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท ต่อเดือน โดยใช้เวลา เลี้ยงเพียง 35 วัน โดยไม่ต้องมีโรงเรือนปรับอากาศ ประชารัฐจะหักต้นทุนค่าอาหาร และโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเกษตรกร ทั้งนี้ที่ผ่านมายังไม่มีเกษตรกรขาดทุน แต่กำลังการเลี้ยงไม่ทันต่อความต้องการของตลาด ซึ่งต้องการ 5 พันตัวต่อสัปดาห์
ศาสตราจารย์.ดร.มนต์ชัย กล่าวด้วยว่า หากสามารถขยายพันธุ์ไก่ ตอบสนองต่อตลาด ทั้งภายในและนอกประเทศใน 5 ปี ซี่งมีความต้องการ 5ล้านตัว หรือราว 200 ล้านบาท จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจชาติได้อย่างดี ทั้งนี้ยืนยันว่าสายพันธุ์ไก่พันธุ์ต้นแบบถูกเพาะเลี้ยงสายพันธุ์แท้จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นอย่างไรก็ตามกรดยูริคนั้น ควบคุมด้วยสายพันธุ์มากกว่าอาหาร โดยมีแนวโน้มจะพัฒนาสายพันธุ์ทำให้ยูริคในไก่ต่ำกว่านี้ในอนาคต นำไปสู่การแก้ไขปัญหาสุขภาพ และขับเคลื่อนชาติด้วยวิจัยและนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ต่อไป