3 ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ 50-64 เหรียญต่อบาร์เรล

พฤหัส ๐๔ กรกฎาคม ๒๐๑๙ ๑๔:๒๐
จีเอ็มไอ เอดจ์ คาดราคาน้ำมันดิบ WTI ในเชิงปัจจัยทางเทคนิคเคลื่อนไหวในระดับ 50-64 เหรียญต่อบาร์เรล เตือนน้ำมันยังไม่ใช่ขาขึ้นแม้สหรัฐฯและอิหร่านเกิดความตึงเครียดระหว่างกัน จับตาเศรษฐกิจโลก-การเจรจาสงครามการค้า-การผลิต Shale Oil ของสหรัฐฯ ยังกดดันราคาน้ำมัน

นายณพวีร์ พุกกะมาน ผู้บริหารส่วนภูมิภาค จีเอ็มไอ เอดจ์ บริษัทหนึ่งในกลุ่มสถาบันการลงทุนจากประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่าภายหลังจากที่ท่าทีของ โดนัลด์ ทรัมป์และสีจิ้นผิงในกรณีของการแบนเทคโนโลยีของบริษัทหัวเหว่ยเริ่มมีแนวโน้มในเชิงบวกหลังการประชุมกลุ่มประเทศ G20 ที่ผ่านมาส่งผลให้ตลาดการลงทุนกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะตลาดหุ้นโลกและราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นรับข่าวอย่างเห็นได้ชัด ส่วนทองคำราคาปรับตัวลดลง หลังจากที่ถูกเก็งกำไรขึ้นมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี

ส่วนของราคาน้ำมัน WTI ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ต้องจับตาในปีนี้ โดยตั้งแต่ต้นปี 2562 เป็นต้นมา แนวโน้มราคามีความผันผวนค่อนข้างสูง สามเดือนแรกราคาน้ำมัน WTI เป็นขาขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดของปีที่ระดับ 66 เหรียญต่อบาร์เรล ก่อนจะถูกเทขายในช่วงไตรมาสที่สองลงมาอยู่ที่ระดับ 50 เหรียญต่อบาร์เรลจากประเด็นสงครามการค้า จนล่าสุดราคาฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ระดับใกล้เคียง 60 เหรียญต่อบาร์เรล หลังมีข่าวความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านที่ตึงเครียดมากขึ้น

ประกอบกับกลุ่มประเทศ OPEC ได้มีมติร่วมกันในการประชุมว่าจะขยายเวลาลดการผลิตน้ำมันเพิ่มอีก 6-9 เดือน เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันให้ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป คาดว่าจะส่งผลบวกต่อราคาน้ำมันในระยะสั้นถึงกลาง ถึงอย่างไรแนวโน้มราคาน้ำมันหลังจากนี้จะยังคงผันผวน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานไม่ได้ช่วยสนับสนุนราคาน้ำมันแต่อย่างไร

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันจะยังไม่กลับมาเป็นขาขึ้นอย่างเต็มตัว ปัจจัยแรกก็คือเศรษฐกิจโลกในภาพรวมยังไม่ได้เติบโตมากนัก อีกทั้งประเด็นเรื่องของสงครามการค้าและเทคโนโลยียังไม่ได้จบลงเสียทีเดียว ปัจจัยที่ 2 ในการประชุม G20 การพูดคุยระหว่างสหรัฐฯและจีน ยังเป็นเพียงก้าวแรกของการเจรจาเท่านั้น ปัจจัยที่สามคือสหรัฐฯยังคงผลิตพลังงานทางเลือกอย่าง Shale Oil ออกมาอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ราคาน้ำมันอาจจะยังไม่ได้เป็นขาขึ้นเต็มตัว

ด้านแนวโน้มทางเทคนิคของราคาน้ำมันดิบ WTI จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 50 เหรียญต่อบาร์เรลซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้และมีแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 64 เหรียญต่อบาร์เรลและหากผ่านไปได้ก็จะมีแนวต้านต่อไปที่ระดับ 70 เหรียญต่อบาร์เรล นักลงทุนยังต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน โดยใช้หลักการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตฟอร์ลิโอและตั้งจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๑๔ กรมทรัพย์สินทางปัญญาลงพื้นที่แหล่งผลิต ลิ้นจี่นครพนม ผลไม้ GI สินค้าดีเมืองพระธาตุพนม จับมือกลุ่มพันธมิตร Tops Market
๑๕:๕๓ โรงพยาบาลพญาไท 3 ปรับโฉมใหม่ ศูนย์กล้ามเนื้อกระดูกและข้อ ยกระดับการรักษาผู้ป่วยอย่างครบวงจร ภายใต้แนวคิด UNLEASH YOUR BEST
๑๕:๔๒ FWD ประกันชีวิต ครองใจคนรุ่นใหม่ คว้าสองรางวัลองค์กรน่าทำงาน พร้อมเปิดพื้นที่ให้เติบโตในแบบที่เป็นตัวเอง
๑๕:๕๔ ยันม่าร์ฯ คืนกำไรให้กับเกษตรไทย แจกส่วนลดซื้อผลิตภัณฑ์ มูลค่ารวมกว่า 117 ล้านบาท
๑๕:๐๐ กทม. รุกเข้มมาตรการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการระบาดโรคลิชมาเนียในกรุงเทพฯ
๑๕:๕๒ กทม. ขานรับนโยบาย ศธ. ยกเว้นแต่งชุดลูกเสือ-เนตรนารี-ยุวกาชาดโรงเรียนในสังกัด พร้อมจัดสวัสดิการ 20 รายการ
๑๔:๔๓ อิเดมิตสึ ร่วมเปิดฉาก ARRC 2025 ผลักดันนักบิดเอเชียสู่ระดับโลก
๑๔:๐๔ หาดทิพย์ (HTC) จัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 อนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายของปี 2567 ในอัตรา 0.57 บาทต่อหุ้น
๑๔:๒๖ Jeff Satur ชวนทุกคนให้ค้นพบตัวเองในเวอร์ชั่นที่สวยงาม ในซิงเกิลใหม่ ฉันก่อนเจอเธอ (Lost and Found)
๑๔:๐๒ คูลชาแนล ช่องภาพยนตร์ไทยคลาสสิค เปิดภาพยนตร์เก่าครบรส 25 วัน 25 เรื่องตลอดเดือนนี้