นางไพรวรรณ พลวัน อธิบดีกรมผู้สูงอายุ ได้มอบโล่รางวัลนวัตกรรมผู้สูงอายุ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งเป็นนวัตกรรมผู้สูงอายุที่ผ่านการประกวดจากชุมชนใน 6 จังหวัดนำร่อง คือ ลำปาง สมุทรปราการ กาญจนบุรี สระแก้ว นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช รวม 7 ชิ้นงาน ประกอบด้วยนวัตกรรม"ถุงมือพยาบาล"จากเทศบาลตำบลเกาะคา จังหวัดลำปาง นวัตกรรม "ไม้กวาดรักษ์โลกและพรมเช็ดเท้าจากขวดพลาสติกสร้างอาชีพให้ผู้สูงอายุ" ของเทศบาลตำบลบางเมือง จังหวัดสมุทรปราการ นวัตกรรม "เครื่องออกกำลังกายเคลื่อนที่สำหรับผู้สูงอายุติดบ้าน" จากเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย จังหวัดสมุทรปราการ นวัตกรรม "กระบอกไม้ไผ่ใส่ใจการกินยาในผู้สูงอายุ" จากองค์การบริหารส่วนตำบลมะเกลือเก่า จังหวัดนครราชสีมา นวัตกรรม "บ้านสุขกาย สบายใจ: บ้านต้นแบบที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ"เทศบาลตำบลขุนทะเล จังหวัดนครศรีธรรมราช นวัตกรรม "ปุ๋ยชีวภาพจากภูมิปัญญาท้องถิ่นในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ"จากเทศบาลตำบลป่าไร่ จังหวัดสระแก้ว และจากองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเก่า จังหวัดกาญจนบุรี
นางไพรวรรณ กล่าวว่า จะพยายามขยายผลนำนวัตกรรมต้นแบบของทั้ง 6 จังหวัด 7 พื้นที่ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปขยายในพื้นที่อื่นๆ เพราะส่วนหนึ่งก็จะเป็นการลดปริมาณขยะ มีการนำวัสดุเหลือใช้มาสร้างเป็นนวัตกรรม ทำให้จำนวนขยะลดลง และได้ของใช้ที่มีราคาถูก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นร้อยละ 18 ขณะเดียวกันก็จะมีการพัฒนานวัตกรรมของผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง และผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพ จับมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม
นางระพีพรรณ คำหอม หัวหน้าโครงการวิจัยเรื่องการพัฒนานวัตกรรมทางสังคมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของผู้สูงอายุประเทศไทย กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นโครงการระยะที่ 3 ซึ่งโดยภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ มีการอบรมเชิงปฏิบัติการนวัตกรระยะสั้น 3 วัน โดยมีตัวแทน 6 จังหวัดร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และวิเคราะห์ปัญหาสำคัญของผู้สูงอายุในชุมชน ให้ความรู้การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เรียนรู้กระบวนการสื่อสาร การแก้ไขปัญหาและการคิดนอกกรอบ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับกลุ่มผู้สูงอายุกันเองและให้นวัตกรผู้สูงอายุนำไปต่อยอดถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ได้รับแก่ผู้สูงอายุในชุมชนเพื่อให้เกิดนวัตกรเพิ่มขึ้น ซึ่งหลังการขยายผลในพื้นที่ต่างๆ ทำให้เกิดการสร้างนวัตกรผู้สูงอายุ และสร้างนวัตกรรมออกเป็นชิ้นงาน ที่จะนำไปใช้เพื่อการดูแลผู้สูงอายุได้จริง และพัฒนาทุกพื้นที่ให้เกิดศูนย์ต้นแบบนวัตกรรมผู้สูงอายุ นับเป็นความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เพราะเราอยากเห็นการลดความเหลื่อมล้ำของผู้สูงอายุ ทำให้เกิดความยั่งยืนในพื้นที่ ผู้สูงอายุสามารถดูแลกันเองได้ ซึ่งหวังว่าโครงการลักษณะนี้จะเกิดความยั่งยืนในพื้นที่ และมีการเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นๆ
สำหรับภายในงาน "Thailand Social Expo 2019" ที่ Challenger Hall 2 เมืองทองธานี ได้จัดเวที SHOW AND SHARE นำเสนอนวัตกรรมผู้สูงอายุเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย พร้อมมีการจัดแสดงนวัตกรรมผู้สูอายุ ภายในงาน ระหว่าง วันที่ 5-7 ก.ค. 2562