เผยแพร่ออกไปแล้ว นั้น
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ไปรษณีย์ไทย ได้ทำการตรวจสอบเส้นทางไปรษณีย์ของกล่องพัสดุทุกจุด ผ่านกล้องวงจรปิด นับตั้งแต่ จุดแรก คือ การฝากหน้าเคาน์เตอร์ของที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดสุพรรณบุรี การส่งต่อถุงไปยังศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ
เพื่อส่งต่อไปยังสายการบินและส่งต่อไปยังประเทศเกาหลีใต้ โดยกระบวนการตรวจสอบดังกล่าว ผ่านกล้องวงจรปิดและเครื่องเอ็กซเรย์สิ่งของ ดังนี้
- วันที่ 28 มิถุนายน 2562 เวลา 09.52 น.ผู้ฝากส่งได้ฝากส่งสิ่งของ ณ เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ประจำ ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดสุพรรณบุรี
- วันที่ 29 มิถุนายน 2562 เวลา 09.45 น. สิ่งของถูกลำเลียงมายังศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ โดยตลอดการลำเลียงสิ่งของ ทองรูปพรรณไม่ได้หายในเส้นทางไปรษณีย์โดยตรวจสอบผ่านกล้องวงจรปิด ทุกจุด ณ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ ได้แก่เวลา 09.56 น. ทำการเอ็กซเรย์แบบรายถุง เวลา 10.13 น. ทำการเอ็กซเรย์กล่องไปรษณีย์แบบรายชิ้นในขั้นตอนการคัดแยก และเวลา16.29 น. ทำการเอ็กซเรย์แบบรายถุง
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและภาพจากเครื่องเอ็กซเรย์พบว่า ทองรูปพรรณทั้ง 2 เส้น รวม 4 บาท ที่บรรจุในกล่องไปรษณีย์ยังอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนั้น ไปรษณีย์ไทย จึงขอยืนยันว่าทองรูปพรรณ
ทุกชิ้นของผู้เสียหายไม่ได้สูญหายในเส้นทางไปรษณีย์ ซึ่งทุกกระบวนการโปร่งใสและสามารถตรวจสอบตามหลักฐานที่ได้ทำการบันทึกไว้ได้
อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทย จะทำการติดตามและตรวจสอบการสูญหายที่เกิดขึ้น จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งให้ผู้ร้องเรียนทราบต่อไปโดยเร็ว ทั้งนี้ ในเบื้องต้น ไปรษณีย์ไทย จะชดใช้ค่าเสียหายให้ตามระเบียบการชดใช้ค่าเสียหายการใช้บริการ EMS WORLD
อนึ่ง สิ่งมีค่าทุกประเภท รวมถึงทองคำและทองรูปพรรณ เป็นสิ่งต้องห้ามฝากส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถสอบถามข้อมูลสิ่งของห้ามฝากส่ง หรือพบปัญหาสิ่งของสูญหายและได้รับความไม่สะดวกในการใช้บริการของไปรษณีย์ไทย สามารถแนะนำบริการต่างๆ ได้ที่ THP Contact Center 1545