MIT Technology Review จะคัดเลือก 50 องค์กรที่มีความก้าวหน้าและชาญฉลาดที่สุด โดยพิจารณาจากสิ่งที่บริษัทนั้นๆ ได้ทำในช่วงปีที่ผ่านมา วิธีการที่ใช้ และความสำเร็จที่ได้รับ โดยจะประเมินความสามารถในการแข่งขันหลัก ๆ ของบริษัทด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงความก้าวหน้าและนวัตกรรมที่บริษัทได้สร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นทั้งกับตัวบริษัทเอง วงการอุตสาหกรรม หรือแม้แต่ในระดับโลก
มร. วิลเลี่ยม สฺวี กรรมการบริหารและประธานสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์ของหัวเว่ย กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรมของหัวเว่ยที่งาน 50 Smartest Companies 2019 China Summit ว่า "กว่า 30 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้พัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมเป็นหลัก เช่นเดียวกับนวัตกรรมด้านโซลูชั่นโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภค ที่เราเรียกว่า นวัตกรรม 1.0 แห่งอนาคต (Innovation 1.0. In the future) หัวเว่ยจะดำเนินการพัฒนา นวัตกรรม 2.0 ต่อไป อันรวมถึงความก้าวหน้าทางทฤษฎีและนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์ หัวเว่ยยึดมั่นในนวัตกรรมที่เปิดกว้างและการพัฒนาที่ครอบคลุมรอบด้าน ซึ่งนวัตกรรมที่เปิดกว้างนั้นหมายถึง การพัฒนาร่วมไปกับผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก พร้อมทั้งแบ่งปันทรัพยากรและความสามารถ ส่วนการพัฒนาที่ครอบคลุมรอบด้านนั้น หมายถึง การแบ่งปันผลผลิตจากนวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้ทุกคนและทุกอุตสาหกรรมสามารถใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งช่วยสร้างอนาคตที่สดใสแก่โลกและอุตสาหกรรมต่างๆ ต่อไป"
มร. วิลเลี่ยม สฺวี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าสถาบันการศึกษาเป็นแหล่งบ่มเพาะความก้าวหน้าทางทฤษฎีและการประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมต่างๆ ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมจะคอยผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าจากความท้าทายที่มากขึ้น การสนองความต้องการของผู้บริโภค และการให้เงินทุนสนับสนุนการวิจัยแก่มหาลัยต่าง ๆ หัวเว่ยจะสนับสนุนการวิจัยของมหาวิทยาลัยและสถาบันต่าง ๆ ต่อไป และให้คำมั่นว่าจะค้นหาและสร้างสรรค์เทคโนโลยีแห่งอนาคต ตลอดกระบวนการประมวลผลข้อมูล ครอบคลุมตั้งแต่การสร้าง การจัดเก็บ การคำนวน การถ่ายโอนและการนำเสนอ ไปจนถึงการใช้สอยข้อมูล
MIT Technology Review ได้ร่วมแสดงความยินดีกับบริษัทที่ติดอัน "50 Smartest Companies" ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศจีนเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยมีทั้งบริษัทจีนและบริษัทข้ามชาติที่ดำเนินธุรกิจในจีนติดอันดับดังกล่าว