ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้จัดงาน Bangkok Fintech Fair 2019 ภายใต้แนวคิด Collaboration for the Future of Finance เพื่อประสานความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งระดับรัฐ เอกชน สถาบันการเงิน ธนาคารกลาง และผู้ให้บริการทางการเงิน เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศน์ (ecosystem) ของไทยให้เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน ซึ่งกิจกรรมภายในงานจะประกอบด้วยการบรรยายเสวนา การจัดแสดงนวัตกรรม และการแถลงข่าว ในระหว่างวันที่ 18-19 กรกฎาคม 2562 ณ อาคารศูนย์การเรียนรู้ ธปท. โดยคาดว่าจะมีผู้บริหารและผู้แทนจากสถาบันการเงิน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ธนาคารกลางต่างประเทศองค์กรระหว่างประเทศ ผู้ให้บริการและที่ปรึกษาด้านการเงิน เทคโนโลยี IT และกฎหมาย ตลอดจนผู้สนใจเข้าร่วมชมงานกว่า 1,500 คน
นางสาวสุธีรา ศรีไพบูลย์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายเทคโนโลยี ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวผ่านหลากหลายกิจกรรม นำโดยบูธกิจกรรมจัดแสดงนวัตกรรมทางการเงินของธนาคารกรุงเทพ ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยแนวคิด CO-CREATING VALUE ที่ต้องการสื่อถึงความมุ่งมั่นของธนาคารที่พร้อมเคียงข้างลูกค้า และสร้างการมีส่วนร่วมต่อการสร้างสรรค์สังคม ด้วยการสานความรู้ความเชี่ยวชาญ เชื่อมโยงกับเทคโนโลยี เพื่อก้าวเดินไปพร้อมกันอย่างมั่นใจ ภายในบูธได้นำเสนอนวัตกรรมและโครงการพัฒนาเทคโนโยลีทางการเงิน ที่ธนาคารได้พัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับบริการทางการเงินให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้ดียิ่งขึ้น ประกอบด้วย
1.) Bangkok Bank InnoHub – FinTech Accelerator ต่อยอดพัฒนา นวัตกรรม โครงการบ่มเพาะเพื่อพัฒนาศักยภาพสตาร์ทอัพในกลุ่มฟินเทคระดับโลก ทั้งยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจบริการทางการเงินของไทย และสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายและพันธมิตรการพัฒนาระบบนิเวศน์ทางการเงินในประเทศไทย
2.) Facial Recognition Technology – Identify Verification ยืนยัน มั่นใจ เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าที่อาศัยปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) มาช่วยเรียนรู้และจดจำใบหน้าเพื่อใช้ยืนยันตัวตนของลูกค้า อันเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Customer: KYC)
3.) BeWallet – QR Code Payment ง่ายเวอร์ สะดวกเวอร์ บริการชำระเงินค่าสินค้าและบริการผ่าน QR Code ได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน จ่ายได้ทั้งร้านค้าในไทยและในอาเซียน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ รวมไปถึงประเทศอื่นๆในเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น
4.) L/C on Enterprise Blockchain ปฏิวัติบริการ L/C ให้รวดเร็ว ปลอดภัย ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน โครงการความร่วมมือกับกลุ่มสถาบันการเงินระดับโลกที่เป็นพันธมิตรกับ R3 ผู้พัฒนาเทคโนโลยีการเงินระดับโลกที่ร่วมกันศึกษาและพัฒนาการนำ Blockchain มาใช้สนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ โดยล่าสุดธนาคารได้เริ่มทดลองการให้บริการ L/C แก่ลูกค้าและคู่ค้าผ่านระบบใหม่นี้ที่เป็นดิจิทัลทุกขั้นตอน กระบวนการจึงง่าย ลดระยะเวลาและเอกสาร ทั้งมีความปลอดภัยสูง
5.) KMUTT BeDigiPass รูปแบบใหม่ของบัตรนักศึกษา มิติใหม่ของบัตรนักศึกษาในรูปแบบเสมือนจริงบนสมาร์ทโฟน สามารถใช้ทำธุรกรรมต่างๆ ในมหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่ เช็คชื่อ จ่ายค่าอาหาร ค่าหอ และค่าเทอม สะดวก ง่าย ไม่ต้องพกเงินสด ซึ่งธนาคารได้เริ่มนำร่องกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
6.) Bualuang mBanking x Rabbit LINE Pay BTS ดูยอด เติมเงิน เช็กเที่ยว ครบ จบ ในแอปเดียว นวัตกรรมที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ช่วยเชื่อมต่อแอปพลิเคชันและระบบต่างๆ เข้าด้วยกันทำให้เรื่องการเงิน ใช้จ่าย และเดินทางกับรถไฟฟ้า สามารถทำได้ผ่าน Bualuang mBanking ในแอปเดียว
ภายในงาน ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพในกลุ่มฟินเทคที่ร่วมกับธนาคารในโครงการ Bangkok Bank InnoHub มาร่วมออกบูธในโซน IT & FinTech ได้แก่ AntWorks บริษัทผู้ให้บริการด้านปัญญาประดิษฐ์และระบบอัจฉริยะระดับโลก ที่สามารถแปลงข้อมูลต่างๆ ได้หลายภาษารวมถึงภาษาไทย เข้าสู่ระบบดิจิทัลเพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์และค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และ Pand.ai ผู้พัฒนาระบบแชทบอตสำหรับสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันให้บริการธุรกิจข้ามชาติเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศมาเลเซีย สิงคโปร ไต้หวัน และไทย ในครั้งนี้จะนำความอัจฉริยะของระบบแชทบอตรูปแบบต่างๆ ที่สามารถนำมาสนับสนุนการบริการทางการเงินได้ด้วย
นอกจากบูธกิจกรรมและการนำเสนอนวัตกรรมแล้ว ผู้บริหารของธนาคารยังได้รับเกียรติร่วมการบรรยายและเสวนาในหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจ นำโดยคุณจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการบริหาร ในการเสวนา 'Collaboration for Inclusive Digital Finance: How to Make it Happen' ร่วมกับผู้ว่าการ ธปท.
การบรรยายหัวข้อ 'ASEAN Payment Connectivity Showcases' โดยคุณขจรศักดิ์ มานะวิริยะกุล เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Senior Vice President ผู้จัดการศูนย์ปฏิบัติการธุรกิจส่งออกและนำเข้า ที่จะร่วมเป็นผู้บรรยายเกี่ยวกับ Blockchain L/C คุณธนกัญจน์ พรรณสมบูรณ์ Assistant Vice President การตลาดสมาชิกบัตร ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต สายบัตรเครดิต บรรยายเกี่ยวกับ Interoperable QR และคุณพินทุวรรณ คลายเซน Vice President สายปฏิบัติการสนับสนุน ร่วมเป็นวิทยากรในวงเสวนาหัวข้อ 'FinTech for the Evolution of Corporate Solutions'
นอกจากนี้ ในงาน Bangkok FinTech Fair 2019 ยังมีกิจกรรมการแถลงข่าวเปิดตัวองค์กรและบริการที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล โดยธนาคารได้ร่วมสนับสนุนและพัฒนา ประกอบด้วย การแถลงข่าวเปิดตัวบริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่เข้ามาทำหน้าที่พัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจให้ลูกค้าสามารถยืนยันตัวตนได้สะดวกยิ่งขึ้น และการแถลงข่าวบริการชำระเงินด้วย MyPromptQR ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการชำระค่าสินค้าและบริการ เพียงร้านค้าสแกน QR Code ของลูกค้าเพื่อรับชำระเงินตามจำนวนที่กำหนด โดยลูกค้าเพียงตรวจสอบยอดและยืนยันการชำระเงินก็สามารถทำรายการได้สมบูรณ์ สะดวก ปลอดภัย ทั้งสองฝั่ง และไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการเงินสดที่อาจเสี่ยงสูญหาย รวมถึงการจัดเตรียมเงินทอน
"งาน Bangkok FinTech Fair 2019 นับเป็นเวทีที่ดีที่ธนาคารและสถาบันการเงิน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาด้านเทคโนโลยีทางการเงินแก่กัน อันจะนำไปสู่การร่วมกันสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน สำหรับธนาคารกรุงเทพ การพัฒนาด้านนวัตกรรมทางการเงินเพื่ออนาคต เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่ธนาคารมุ่งเน้นขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาบริการธนาคารดิจิทัล เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมและจัดการการเงินได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งยังประสานความร่วมมือกับฟินเทคชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างสรรค์บริการทางการเงินด้วยเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อให้แน่ใจว่าธนาคารจะสามารถยกระดับการให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้าได้ตรงกับความต้องการและสอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา" นางสาวสุธีรา กล่าว
ทั้งนี้ ขอเรียนเชิญผู้สนใจร่วมอัพเดทนวัตกรรมและโครงการพัฒนาเทคโนโยลีทางการเงินของธนาคาร ผ่าน RFID Interactive Wall ได้ที่บูธธนาคารกรุงเทพ ในงาน Bangkok FinTech Fair 2019 ระหว่างวันที่ 18-19 กรกฎาคม พ.ศ.2562 ณ อาคารศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand Learning Center)