ในไตรมาส 2 ของปี 2562 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 25,536 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน การเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเป็นผลจากการปรับพอร์ตสินเชื่อของธนาคารด้วยการเพิ่มสัดส่วนของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง ในขณะที่สินเชื่อโดยรวมขยายตัวประมาณ 3% จากปีก่อน
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 10,505 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถึงแม้ว่าธุรกิจประกันชีวิตของ SCB Life ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 6.6% จากการฟื้นตัวของรายได้หลักจากค่าธรรมเนียมสุทธิ (recurring fee) การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศและกำไรจากเงินลงทุน
ในไตรมาสนี้ การเติบโตของค่าใช้จ่ายชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อน โดยไม่มีผลกระทบของค่าใช้จ่ายครั้งเดียวในการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานจากกฎหมายแรงงานใหม่ นอกจากนี้การดำเนินงานของโครงการ Transformation กำลังอยู่ในช่วงสุดท้ายและส่งผลให้ค่าใช้จ่ายจากการลงทุนในโครงการที่อยู่ในระดับสูงกำลังสิ้นสุดลงเช่นกัน ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน จาก 51.6% ในไตรมาส 1 ของปี 2562 เป็น 46.2% ในไตรมาส 2 ของปี 2562
ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ทรงตัวที่ 2.77% และในไตรมาส 2 ของปี 2562 ธนาคารได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรวม 5,909 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วนค่าใช้จ่ายหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ 1.10% ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับที่ 153% ในขณะที่เงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 17.1%
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า "แม้ว่าธนาคารเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจและความผันผวนของเศรษฐกิจโลกในครึ่งปีแรก ธุรกิจหลักของธนาคารยังคงแข็งแกร่งและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ความพยายามในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจของธนาคารได้เปิดประตูไปสู่การร่วมลงทุน และนำความรู้ความชำนาญของพันธมิตรทางธุรกิจในระดับโลกมาใช้เพื่อผลักดันการขยายตัวในธุรกิจใหม่ ที่ผ่านมาธนาคารได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาขีดความสามารถใหม่ๆ จากโครงการ Transformation และกำลังใช้ความสามารถเหล่านี้สร้างรายได้เพื่อผลักดันการเติบโตในอนาคต รวมทั้งธนาคารจะนำขีดความสามารถดังกล่าวมาใช้ในเชิงรุกยิ่งขึ้นในการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ทั้งจากการเติบโตของธุรกิจของธนาคารเองและการเติบโตผ่านการซื้อหรือการลงทุนในธุรกิจเป้าหมาย"