นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า "ปัจจุบันเศรษฐกิจประเทศไทยพึ่งพากับสินค้าส่งออกเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้ชะลอตัวตามสภาวการณ์การค้าโลก ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น นักธุรกิจส่งออกไทยจึงต้องปรับตัวและวางกลยุทธ์ หรือแนวทางการทำตลาดใหม่ ดังนั้น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (New Economy Academy: NEA) จึงจัดโครงการ CLMVT Plus Executive Program on New Economy 2019 เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจระหว่างนักธุรกิจและภาครัฐในกลุ่มประเทศ ASEAN ภายใต้แนวคิด ASEAN Branding ซึ่งเป็นการจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ตามที่รัฐบาลมุ่งเน้นส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (Strategic Partnership) ระหว่างประเทศไทยและกลุ่มประเทศ CLMV และขยายสู่ระดับ ASEAN ในปีนี้ โดยเชิญผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชนมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ วิสัยทัศน์ ออกแบบกลยุทธ์ใหม่ๆ พร้อมทั้งเชื่อมโยงด้านเครือข่ายทางธุรกิจ รวมถึงสร้างโอกาสการเรียนรู้เชิงกลยุทธ์ และประสบการณ์จากวิทยากรชั้นนำระดับโลก พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า สัมมนาการใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ หรือ Cross-Border Digital Trade สำหรับเศรษฐกิจยุคใหม่ โดยกรมฯ เชื่อมั่นว่าตลอดระยะเวลาหลักสูตร 5 วัน จะก่อให้เกิดเครือข่ายมิตรภาพที่เข้มแข็ง อันเป็นประโยชน์ในการขยายธุรกิจทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก "
"CLMVT Plus Executive Program on New Economy 2019 ได้รับการออกแบบให้ผู้ร่วมโครงการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านกิจกรรม Workshop และ Conference, Networking และ Site Visit อันสามารถนำไปใช้จริงในธุรกิจปัจจุบัน และขยายเครือข่ายมิตรภาพระหว่างผู้บริหารระดับสูงซึ่งนำไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับ ASEAN รวมถึงแนวทางการกำหนดนโยบายต่างๆ ร่วมกัน" อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร. 1169 หรือ www.nea.ditp.go.th