ดร.บุญรักษ์ กล่าวต่อไปว่า ในปีที่ผ่านมาทีมนักศึกษาจากวิทยาลัยสารพัดช่างตราดที่ชนะเลิศ ในฐานะแชมป์ปี พ.ศ.2562 จะได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อคงสภาพแชมป์ และในการแข่งขันเป็นการภายในครั้งนี้ ทีมจากวิทยาลัยสารพัดช่างตราดก็ได้เข้ามาแกะสลักโชว์ผลงานด้วย สำหรับทีมที่เข้าแข่งขันมีทั้งหมด 5 ทีม ได้แก่ 1. ทีมวิทยาลัยอาชีวศึกษาสระบุรี (ชนะเลิศ) ชื่อผลงาน "พระบารมีแห่งองค์สยามราชัน" 2. ทีมวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี (รองชนะเลิศ) ชื่อผลงาน "เราไม่ทิ้งกัน" 3. วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี ชื่อผลงาน "ครอบครัวพยูน" 4. วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม ชื่อผลงาน "เทิดไท้องค์ราชัน" และ 5. วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต ชื่อผลงาน " วิหคแดนทักษิณ" ซึ่งเกณฑ์การให้คะแนน พิจารณาจากผลงานโมเดล ผลงานการแกะสลักโฟม และผลงานการแกะสลักน้ำแข็ง โดยมีกรรมการตัดสิน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากสถานประกอบการและผู้เชี่ยวชาญการแกะสลักหิมะระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านการแกะสลักน้ำแข็งจากโรงแรมชั้นนำของประเทศไทย
"สำหรับการแข่งขันที่ผ่านมา ทีมนักศึกษาอาชีวศึกษาไทย สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองติดต่อกัน 10 สมัย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทักษะฝีมือที่เป็นเลิศด้านวิชาชีพ สร้างความภาคภูมิใจให้ประเทศชาติ ทั้ง ๆ ที่ประเทศเราไม่เคยมีหิมะ ดังนั้น ความพยายาม ความอดทน ความตั้งใจจริง และสุนทรียภาพที่ถูกปลูกฝังอยู่ในสำนึกของเด็กอาชีวะไทย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันไปสู่ผลงานที่เป็นสุดยอด ส่วนตัวแทนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ และรองชนะเลิศครั้งนี้ ทั้งวิทยาลัยอาชีวศึกษาสระบุรี และวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ก็เป็นทีมที่ครองตำแหน่งชนะเลิศมามากกว่า 2 ครั้ง ในการแกะสลักหิมะนานาชาติ จึงอยากให้ทั้ง 2 ทีม รวมทั้งทีมของวิทยาลัยสารพัดช่างตราดซึ่งเป็นแชมป์เมื่อปีที่แล้ว ตั้งใจทำผลงานกันให้เต็มที่ เพราะทุกคน ทุกทีม คือตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศ และขอให้พี่น้องชาวไทยช่วยส่งกำลังใจและ อวยพรให้กับ 3 ทีมนักศึกษาอาชีวะไทยที่จะเดินทางไปร่วมการแข่งขันการแกะสลักหิมะนานาชาติในครั้งนี้ด้วย ซึ่งการแข่งขันจะเริ่มประมาณ ต้นปีพ.ศ. 2563" เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวปิดท้าย