เซ็นทรัล เอ็มบาสซี นำเสนอนิทรรศการศิลปะแห่งโลกใต้สมุทร “ANIMA MUNDI: Soul of the World” ผลงานของอีโค่ อาร์ติสระดับโลก Mulyana ครั้งแรกในไทยหวังกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักรักษ์สิ่งแวดล้อมและถิ่นอาศัย

จันทร์ ๐๕ สิงหาคม ๒๐๑๙ ๑๑:๔๐
เพราะในปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกัน ดังนั้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อแนวคิดการใช้ชีวิตให้ผู้คนในสังคมร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนที่อยู่อาศัยให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นอย่างยั่งยืน

รวมไปถึงเพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจด้านศิลปะ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Let Life Inspire You ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ร่วมกับ Mulyana (มูล์ยานะ) อีโค่ อาร์ติสชื่อดังชาวอินโดนีเซีย สร้างสรรค์ศิลปะเชิงอนุรักษ์ระดับโลกที่แตกต่าง ด้วยการเปิดงาน ANIMA MUNDI: Soul of the World (อะนีมา มุนดิ: โซล ออฟ เดอะ เวิลด์) นิทรรศการครั้งแรกในประเทศไทยและเป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดของศิลปินผู้นี้ที่เคยจัดแสดงมา ณ ใจกลางศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ชั้น G และบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าฯ เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อรณรงค์เชิญชวนให้ทุกคนร่วมกันตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมที่กำลังถูกทำลายจากมนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาระดับโลกที่ทุกคนจะได้รับผลกระทบในอนาคตและไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป โดยเปิดให้บุคคลทั่วไป และนักท่องเที่ยวได้เข้าชมและร่วมกิจกรรมรักษ์โลกโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ ถึง 1 ก.ย. 2562 พร้อมการจำหน่ายไอเทมสุดอินโนเวทีฟคอลเลกชั่นพิเศษ ทั้งเสื้อยืดออร์แกนิค กระเป๋าผ้า กระเป๋าคาดอก และผ้าอเนกประสงค์ที่ทำจากขวดพลาสติกเหลือใช้ เพื่อนำรายได้ทั้งหมดมอบให้ กรีนพีซ ประเทศไทย (Greenpeace Thailand) องค์กรรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม

ภายในงานเปิดนิทรรศการ ได้รับเกียรติจาก Mulyana (มูล์ยานะ) ศิลปินเจ้าของผลงาน ซึ่งบินมาร่วมในงานเปิดตัวผลงานดังกล่าว โดยมี บรม พิจารณ์จิตร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ร่วมต้อนรับ พร้อมด้วยเซเลบริตี้หัวใจสีเขียว อาทิ ม.ล. รจนาธร ณ สงขลา, พิสิษฐ์ ณ พัทลุง, ผศ.ดร.เวชสวรรค์ หล้ากาศ, ดอมินิก ภูวสวัสดิ์ จักรพงษ์, เสกสรร รวยภิรมณ์, อรประพันธ์ สุทธินรเศรษฐ์, ปัณพัท เตชเมธากุล และศิลปินสาว อรณิชา กรินชัย มาร่วมรวมพลังรักษ์โลกกันอย่างคับคั่ง

โดยคอนเซ็ปต์หลักในนิทรรศการนี้มีที่มาจากความหวัง ความฝัน และจินตนาการของศิลปินที่ชวนให้เราตระหนักว่า โลกของเรากำลังเปราะบางลงเรื่อย ๆ และในอีกไม่นาน โลกใบนี้อาจจะเหลือเพียงแค่จินตนาการก็เป็นได้ นิทรรศการครั้งนี้ Mulyana ได้นำผลงานชิ้นเอกที่ได้รังสรรค์ขึ้นใหม่มาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในโลก ไม่ว่าจะเป็น ประติมากรรมกลางแจ้งจัดวางรูปซากโครงกระดูกวาฬขนาดมหึมา ความสูง 3 เมตร ยาว 12 เมตร ทำจากวัสดุเหลือใช้ทั้งเหล็ก อลูมิเนียม แทรกด้วยต้นไม้ใบหญ้า ผลงานศิลปะรูปสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใหญ่ที่สุดในโลกชนิดหนึ่งที่กำลังใกล้สูญพันธ์ด้วยน้ำมือมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อมชิ้นนี้ เป็นสัญลักษณ์แทนถึงความตายของธรรมชาติ ที่กระตุ้นให้มนุษย์ตระหนักรู้ถึงผลการกระทำ และบทบาทหน้าที่ของตนเองต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างทรงพลัง, ไจแอ้นท์ โมกุส (Giant Mogus) หรือหมึกยักษ์ขนาดมโหฬาร ความสูง 5 เมตร อันเป็นเอกลักษณ์มาจากผลงานซิกเนเจอร์ของศิลปิน ผลงานชิ้นนี้ทำขึ้นจากเส้นใยพลาสติกเหลือใช้ถักทอ ยัดไส้ผ้าคอตตอนเหลือใช้หลากสี ที่ผู้ชมสามารถเดินเข้าไปข้างในและสนุกกับการสวมบทบาทเป็นสัตวประหลาดถ่ายรูปเล่นได้ ซึ่งสัตว์ประหลาดที่ว่านี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แทนมนุษย์ทุกคนที่มีส่วนในการทำลาย หรือแม้แต่ปกป้องธรรมชาติของเราเอาไว้ รวมถึง ศิลปะจัดวางรูปวาฬใหญ่ 4 ตัว ความสูง 2 เมตร และ 1.5 เมตร ที่ภายในทำจากเศษผ้าคอตตอนเหลือใช้ และศิลปะจัดวางรูปโครงกระดูกวาฬ เพื่อย้ำเตือนให้เราตระหนักถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ว่า วาฬเคยเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะก่อนช่วง 1800 เพราะมีการล่าปลาวาฬเพื่อผลิตน้ำมันกันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งเขายังได้นำผลงานชิ้นเด่นๆ ที่เคยแสดงมาก่อนหน้านี้ จากประเทศอินโดนีเซีย มาเผยสู่สายตาคนไทยเป็นครั้งแรก ทั้ง โมบายรูปปลากว่า 5,000 ตัว ที่ห้อยอยู่กลางอากาศ เกาะปะการังหลากสี และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึก ซึ่งผลงานทั้งหมดนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นจากวัสดุเหลือใช้ได้อย่างน่าทึ่ง

บรม พิจารณ์จิตร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เผยว่า "เซ็นทรัล เอ็มบาสซี มีความตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญในโลกปัจจุบัน โดยในครั้งนี้ เราได้เลือกนำเสนอศิลปะเชิงอนุรักษ์ผลงานของ Mulyana อีโค่ อาร์ติสระดับโลก มาจัดแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เพื่อเน้นเรื่องการนำวัสดุเหลือใช้กลับมาสร้างสรรค์ให้กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ รวมถึงการจัดพื้นที่เพื่อสร้างแรงบันดาลใจทางด้านศิลปะ ที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมทำกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ เรามีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการรับรู้และส่งต่อแนวคิดในการใช้ชีวิตให้ผู้คนเล็งเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์มากที่สุด เพื่อนำไปสู่เป้าหมายในการช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป"

ANIMA MUNDI (อะนีมา มุนดี้) ซึ่งเป็นภาษาละตินที่แปลว่า Soul of the World หรือ "จิตวิญญาณของโลก" เป็นนิทรรศการศิลปะที่นำเสนอโลกใต้ทะเลลึกอันน่ามหัศจรรย์ ผ่านศิลปะการถักนิตติ้ง ซึ่งไม่ได้ใช้ไหมพรมแบบธรรมดาทั่วไป หากแต่ใช้เส้นใยที่ได้จากขยะและวัสดุเหลือใช้อย่าง ขยะยาง หรือขยะพลาสติก เศษด้ายและเศษผ้าจากโรงงานนำมาถักทอเป็นสิ่งมีชีวิตในจินตนาการหลากหลายรูปแบบ รวมถึงเศษเหล็ก และเศษอลูมิเนียมจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ถูกนำมาประยุกต์เป็นงานประติมากรรมรูปแบบใหม่ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เป็นเสมือนตัวตนที่สอง (Alter Ego) ของศิลปิน ที่ได้แรงบันดาลใจจากสิ่งมีชีวิตในโลกใต้ทะเลลึกอันหลากหลาย ที่สวยงามและลึกลับ โดยเฉพาะ Mogus (สัตว์ประหลาด) อย่าง Gurita (หมึกยักษ์ ในภาษาอินโดนีเซีย) ที่เป็นเสมือนหนึ่งลายเซ็นอันเปี่ยมเอกลักษณ์ของศิลปิน

ระยางค์หนวดนับไม่ถ้วนของเจ้าหมึกยักษ์ เป็นเหมือนตัวแทนของมือและแขนอันมากมายของมวลมนุษย์ในโลกนี้ ที่สามารถทำหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการเป็นผู้ทำลายธรรมชาติ เป็นสาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ในขณะเดียวกัน มนุษย์ก็มีความสามารถในการปกป้องและรักษาสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน ผลงานชุดนี้ของเขาเป็นเสมือนการแสดงความขอบคุณต่อธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่สร้างสรรค์มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งมวลขึ้นมา

Mulyana ศิลปินชาวอินโดนีเซีย จากเมืองยอคยาการ์ต้า ที่มีความมุ่งมั่นในการใช้ประโยชน์จากผลงานศิลปะ ให้เป็นเหมือนสื่อกลาง และแบ่งปันค่านิยมในเชิงบวก ผ่านการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะรูปสิ่งมีชีวิตและแนวปะการังใต้ทะเลลึกหลากสีสัน โดยใช้วัสดุเหลือใช้มาทำเป็นผลงานของเขา อดีตครูสอนศิลปะผู้นี้ สร้างสรรค์ตัวตนที่สอง (Alter Ego) ของเขาออกมาในรูปแบบของสิ่งมีชีวิตในโลกใต้ทะเลหลากสีสัน น่าพิศวง ซึ่งผลงานของเขาได้ถูกนำไปจัดแสดงร่วมหลากหลายงานและกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปะมาแล้วทั้งในประเทศบ้านเกิดและอีกหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย และสิงคโปร์

นอกจากนี้ ตลอดการจัดงานยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งเปิดให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมสร้างจิตสำนึก โดยเน้นเรื่องการนำวัสดุเหลือใช้ นำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าจะเป็น เวิร์กช็อปที่ออกแบบโดยศิลปิน ทุกเสาร์-อาทิตย์ วันละ 2 รอบ เวลา 13.00-15.00 น., 16.00-18.00 น. (จำกัด รอบละ 20 ท่าน) ทำเครื่องประดับจากวัสดุเหลือใช้ เศษผ้าต่างๆ ทำตุ๊กตาจากเศษผ้า ถักถุงผ้าพลาสติกเป็นของใช้ เช่น ที่รองแก้ว, ต่างหู, กล่องดินสอ และกิจกรรมจากองค์กรไม่แสวงผลกำไร ทุกเสาร์-อาทิตย์ เวลา 14.00-15.30น. (จำกัดวันละ 15 ท่าน) วันที่ 3-4 ส.ค. ฟังการบรรยายและสาธิตการทำของใช้จากขยะพลาสติก, วันที่ 10-12 ส.ค. สอนทำผ้าเคลือบด้วยไขผึ้งใช้ห่ออาหารแทนพลาสติก, วันที่ 17-18 ส.ค. สนุกกับการเรียนรู้ทำผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค สครับจากข้าว,

วันที่ 24-25 ส.ค. เปลี่ยนขยะจากทะเลให้เป็นพวงกุญแจรูปสัตว์ต่างๆ กับ Tlejourn (ทะเลจร), วันที่ 31 ส.ค. – 1 ก.ย. การให้ความรู้การจัดการกับขยะที่ถูกต้อง และการทำ Eco bricks และร่วมกันทำ Eco bricks เป็นของใช้ที่มีประโยชน์กับ Trash Hero Thailand (แทรช ฮีโร่ ประเทศไทย) กิจกรรมประดิษฐ์ของใช้จากวัสดุเหลือใช้อย่าง การประดิษฐ์กระเป๋าใส่เหรียญจากยางในรถยนต์ พวงกุญแจจากไวนิลเหลือใช้ เวลา 11.00-20.00 น. ทุกวัน (จำกัดวันละ 50 ท่าน) เพียงร่วมบริจาคเงินตามจิตศรัทธา เพื่อนำรายได้ทั้งหมดสนับสนุนองค์กรรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม กรีนพีซ ประเทศไทย

อีกทั้ง ร่วมพูดคุยกับนักอนุรักษ์ในมุมมองต่างๆ เพื่อการตระหนักถึงการใช้ชีวิตร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ทุกวันอาทิตย์ เวลา 15.00-16.00 น. โดยวันที่ 4 ส.ค. พบกับ ผศ.ดร.เวชสวรรค์ หล้ากาศ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ หัวข้อ ถนนรีไซเคิลเพื่อแก้ปัญหาขยะถุงพลาสติกในประเทศ, วันที่ 11 ส.ค. คุณดอมินิก-ภูวสวัสดิ์

จักรพงษ์ ผู้ก่อตั้ง Precious plastic Bangkok หัวข้อ "พลาสติกไม่ใช่ปัญหา แค่ต้องรู้จักใช้", วันที่ 18 ส.ค. โดย ดร.ศิริกุล เลากัยกุล ผู้อานวยการโครงการ Sustainable Brands หัวข้อ "รักษ์โลกในมุมมองของแบรนด์ต่างๆ", วันที่ 25 ส.ค. ดร.ณัฐพงศ์ นิธิอุทัย อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาควิชาเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ หัวข้อ "การปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวในอนาคต" และ วันที่ 1 ก.ย. พิชามญชุ์ รักรอด จาก Greenpeace Thailand หัวข้อ "การใช้ชีวิตที่ตระหนักถึงธรรมชาติและส่วนรวม"

ตลอดจนยังมีสินค้าคอลเลคชั่นรักษ์โลกสุดอินโนเวทีฟมาวางจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อยืดออร์แกนิค กระเป๋าผ้า กระเป๋าคาดอก และผ้าอเนกประสงค์ที่ทำจากขวดพลาสติกเหลือใช้ ที่แสดงข้อมูลของการประหยัดพลังงานและการช่วยรักษาธรรมชาติจากการรีไซเคิล ที่ถูกดีไซน์ขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ โดยรายได้ทั้งหมดจะนำไปสมทบทุน กรีนพีซ ประเทศไทย รวมทั้งยังมีสเตชั่นรับบริจาคถุงหูหิ้ว ถุงพลาสติกใส และขวดพลาสติกที่เหลือใช้และไม่ปนเปื้อนเศษอาหารหรือสารเคมี ที่เชิญชวนให้ทุกคนได้แสดงพลังร่วม เพื่อนำไปทำบล็อกปูถนนที่วัดอุโมงค์ จังหวัดเชียงใหม่ โดย Thailand Green Road ก่อตั้งโดย ผศ.ดร. เวชสวรรค์ หล้ากาศ (ทั้งนี้ ถุงพลาสติก 4,000 ใบ สามารถทำบล็อคปูถนนได้ 1 ตรม.)

ที่สำคัญ งานแสดงครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในการจับมือกับ 5 พันธมิตรระดับเวิลด์คลาส ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ได้จัดเตรียมไว้ในวาระครบ 5 ปี เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และถือเป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรมรักษ์โลกสุดสร้างสรรค์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งในช่วงเวลาของการแสดงนิทรรศการ ยังต่อยอดออกไปเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล โดย เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ร่วมกับ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา และมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดกิจกรรมเก็บและ

คัดแยกขยะในบริเวณชายหาดบางแสน ในวันเสาร์ที่ 24 ส.ค. 62 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. เพื่อนำขยะพลาสติกที่สามารถใช้การได้กลับไปทำการรีไซเคิล และนำไปทำบล็อกปูถนนที่วัดอุโมงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ต่อไป

#ANIMAMUNDI #SouloftheWorld

#CE5thAnniversary #CentralEmbassy #LetLifeInspireYou

เกี่ยวกับมูล์ยานะ

มูล์ยานะเกิดในปีค.ศ.1984 และเติบโตในเมืองบันดุง (Bandung) ประเทศอินโดนีเซีย เขาศึกษาที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ ณ Indonesia University of Education UPI ในปี 2005

มูล์ยานะ ได้เข้าร่วมหลากหลายงานและกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปะ อย่างเช่น 'A Man, A Monster and the Sea' ที่ The Good Shed ประเทศออสเตรเลีย (2019), 'Multiple Hands' ที่ Selasar Sanaryo Art Space เมืองบันดุง ประเทศอินโดนีเซีย (2019), 'Enlightenment' ART/JOG/11 เมืองยกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย (2018), 'Coral Atlas' ที่ Artporters ใน Art Central Hong Kong (2018), 'Age of Hope' ในงาน Biennale Jogja XIV-Equator #4 ที่เมืองยกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย (2017), 'Imaginarium: Over the Ocean, Under The Sea' ภายใน Singapore Art Museum ประเทศสิงคโปร์ (2016), 'Mogus World' ที่ Galeri Gerilya, Bandung & Kedai Kebun Forum ที่เมืองยกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย (2012),

โดยวิสัยทัศน์หลักของมูล์ยานะคือการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะรูปร่างปะการัง และ Mogus (โมกุส) หรือสัตว์ประหลาดหมึกยักษ์ด้วยการถักนิตติ้ง

เกี่ยวกับ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี (Central Embassy) ไอคอนิครีเทลแลนด์มาร์คแห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณจุดตัดของถนนเพลินจิตและถนนวิทยุ บนพื้นที่โครงการ 144,000 ตารางเมตร ในฐานะผู้นำด้านไลฟ์สไตล์เหนือระดับครบวงจรใจกลางเมือง ได้เข้ามาเติมเต็มห้างเซ็นทรัลชิดลม และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "One Life Infinite Possibilities" (วัน ไลฟ์ อินฟินิท พอสสิบิลิตี้ส์) "ชีวิตหนึ่งทุกสิ่งเป็นไปได้ อย่างไร้ขีดจำกัด" พร้อมสานต่อเอกลักษณ์ของห้างเซ็นทรัลชิดลม ที่มีมายาวนานจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้ เซ็นทรัล ชิดลม และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี กลายเป็น บ้านหลังที่สองสำหรับชาวไทยและนักท่องเที่ยวทุกคน นอกเหนือจากการพัฒนาด้านสินค้าและบริการแล้ว เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ยังเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านรีเทล ให้ก้าวสู่มิติใหม่แห่งอนาคต ด้วยการเปิดตัว Open House (นิยามใหม่ของ Co-Living Space ออกแบบโดย KDa), SIWILAI CITY CLUB (สถานที่แฮงค์เอ้าท์สุดชิล ออกแบบโดย Yabu Pushelberg) และ Eathai (แหล่งรวมอาหารไทยรสเลิศจากทุกภูมิภาค) นับเป็นมิติใหม่ของธุรกิจรีเทล ที่พร้อมต้อนรับผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยและต่างประเทศ นักช้อปจากทั่วโลก กับความที่สุดแห่งศูนย์กลางสินค้าแบรนด์เนมระดับโลก ไลฟ์สไตล์ อาหาร ดนตรี ศิลปะและการออกแบบ นอกจากนี้ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ยังมุ่งนำเสนอประเทศไทย ในฐานะผู้นำด้านศิลปะ แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ ผ่านสถาปัตยกรรมที่สวยงาม โดดเด่น และทันสมัยใจกลางเมือง สู่สายตาคนทั่วโลกอีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version