ดร.บุญรักษ์ กล่าวต่อไปว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการสร้างความร่วมมือในการผลิตและพัฒนากำลังคนสาขาเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศเพื่อให้ผู้เรียนมีศักยภาพ มีความรู้และทักษะอาชีพ ก้าวทันเทคโนโลยี ที่เปรียบเสมือนการตามล่าความทันสมัยของเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ อีกทั้งช่วยสร้างครูมืออาชีพ เพื่อไปสอนและถ่ายทอดกระบวนการเกี่ยวกับอาชีพให้กับนักเรียน นักศึกษา ช่วยสร้างเสริมประสบการณ์จากการฝึกปฏิบัติงานในสถานการณ์จริง สร้างแรงจูงใจให้มีความรักงาน มีสมรรถะวิชาชีพที่ตรงตามมาตรฐาน มีความเป็นมาตรฐานสากลมากขึ้น และมีงานทำทันทีหลังจากจบการศึกษา
เลขาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบุคลากรด้านเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศมีความขาดแคลนอย่างมาก ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมาการเรียนวิชาเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศเป็นเพียงสาขางานหนึ่งในสาขาวิชาช่างไฟฟ้า สอศ. จึงได้ร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (กรอ.อศ.) และคณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (อ.กรอ.อศ.) เปิดหลักสูตรช่างเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศทั้งในระดับ ปวช. และ ปวส. ซึ่งสอศ.ได้ประกาศใช้หลักสูตรไปแล้วเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 ประกอบกับธุรกิจด้านด้านเครื่องทำความเย็นมีหลากหลาย อาทิ ตู้แช่อาหารสด ตู้แช่น้ำดื่ม ตู้แช่ผัก ผลไม้ เครื่องปรับอากาศ ตู้คอนเทนเนอร์ โรงเผาก๊าซ ทำให้มีความต้องการกำลังคนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ดังนั้น ความร่วมมือในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันสนับสนุนให้ครูผู้สอนมีทักษะเพิ่มขึ้น มีความเท่าทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง สร้างและพัฒนาคนให้ตรงจุด ให้ผู้เรียนที่จบการศึกษาทั้งระดับ ปวช. และปวส.พร้อมทำงานได้ทันที แม้จะศึกษาต่อระดับปริญญาก็สามารถทำงานควบคู่กันไปได้ เชื่อว่าอาชีวศึกษาเดินมาถูกทางแล้วในเรื่องการพัฒนาคนสู่โลกอาชีพ