นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหาร และ ถุงหูหิ้ว ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ " หมากรุก" และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ " Vow Wrap " เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน งวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 15.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 12.52 ล้านบาท
สำหรับอัตราการปรับตัวที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯมีความสามารถในการควบคุมต้นทุนค่าใช่จ่าย โดยการทำกำไร จากการปรับเพิ่มส่วนต่างระหว่างราคาขายและราคาวัตถุดิบที่เปลี่ยนแปลงได้ดี ขณะที่รายได้รวม ในช่วงครึ่งปีแรก อยู่ที่ 264.17 ล้านบาท ลดลง 3.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักเกิดจากปริมาณการขายรวมลดลง 30 ตัน ประกอบกับราคาขายเฉลี่ยต่อกิโลกรัม ลดลง 1.99 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะราคาวัตถุดิบปรับตัวลดลง และระดับการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น
ส่วนผลการดำเนินงาน งวดไตรมาส 2/2562 บริษัทฯมีรายได้รวม 126.21 ล้านบาท ลดลง 6.48% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ มีรายได้รวม 134.96 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 4.64 ล้านบาท ลดลง 17.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 5.63 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจาก ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์ของพนักงานที่เพิ่มขึ้น ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ ประกอบกับปริมาณการขายที่ลดลงเล็กน้อย
กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) ยังได้กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2562 ว่า บริษัทฯยังมีการขยายตัวต่อเนื่อง หลังจากที่มีการปรับกลยุทธ์การบริหารจัดการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมถึงการแตกไลน์ ไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่ ประเภทกล่องบรรจุอาหาร ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้ แบรนด์ " B-LEAF (บี-ลีฟ)" โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ เตรียมจำหน่าย ในช่วงไตรมาส 3/2562 นี้ ซึ่งในระยะแรก บริษัทฯจะจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพื่อนำมาทดลองตลาด ในช่วงแรกปริมาณ 900,000 กล่อง และจะเพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ของลูกค้า โดยบริษัทฯจะเจาะกลุ่มหลัก คือ ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ซึ่งเป็นกลุ่มฐานลูกค้าหลักของTPLAS เพื่อนำไปจำหน่ายต่อให้กับ กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าปลีก ทำให้บริษัทฯคาดว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา
" จากการสำรวจตลาด และทยอยทดลองตลาด ผลิตภัณฑ์ ประเภทกล่องบรรจุอาหาร ในช่วงที่ผ่านมา ยอมรับว่า ตลาดมีการตอบรับเชิงบวกกับสินค้าดังกล่าว เนื่องจากกล่องบรรจุอาหาร B-LEAF ของบริษัทฯ มีความแข็งแรง และทนทาน ในขณะเดียวกันความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์บรรจุอาหารประเภทกล่องกระดาษ เป็นที่ต้องการของตลาดเพิ่มขึ้น จากการเลิกใช้กล่องโฟมในการใส่อาหาร ดังนั้นจึงมองว่า B-LEAF จะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาเสริมรายได้ ให้กับบริษัทฯในอนาคตได้ " นายธีระชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าของการก่อสร้างอาคารโรงงานใหม่นั้น กรรมการผู้จัดการ TPLAS กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษา ว่าอาจจะมีการปรับกลยุทธ์ใหม่ ในเรื่องการนำเครื่องจักรมาลง เนื่องจากเดิม บริษัทฯก่อสร้างอาคารดังกล่าวเพื่อรองรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก แต่ด้วยดีมานด์ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯมีโอกาสที่จะปรับเปลี่ยนโรงงานแห่งนี้ มาผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารประเภทกล่องกระดาษแทน ซึ่งงบลงทุนในการก่อสร้างโรงงานดังกล่าว จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในช่วงก่อนหน้านี้ และคาดว่าโรงานดังกล่าว จะแล้วเสร็จปลายปี 2562