นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ผู้นำการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัย ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระดับประเทศ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2562 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 บริษัทมีรายได้ 805.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 576.84 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 253% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 228.17 ล้านบาท และบริษัทมีกำไรสุทธิ 51.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.83 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 48.18 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 บริษัทมีรายได้ 1,504.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 965.24 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 179% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 539.06 ล้านบาท และบริษัทมีกำไรสุทธิ 81.08 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 และงวด 6 เดือนที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากการที่บริษัทได้มีการทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้จากโครงการหลักๆ ที่ประมูลได้ในปี 2561 และ 2562 บางส่วน ได้แก่ 1.โครงการจัดหาและติดตั้งระบบวิทยุสื่อสารดิจิตอล ระยะที่ 2 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, 2.โครงการจ้างเพิ่มความจุโครงข่ายเชื่อมโยงไปยังชายแดนและไปยังสถานีเคเบิลใต้น้ำกับศูนย์โทรคมนาคมของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน), 3.โครงการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) กลุ่มที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 และกลุ่มที่ 6 ภาคกลาง 1 กับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ที่บริษัทเพิ่งจะชนะการประมูลและได้ลงนามในสัญญาในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 และ 4.โครงการจ้างติดตั้งอุปกรณ์ Network เพื่อให้บริการในพื้นที่ ENCO Complex อีกทั้งยังมีรายได้จากการจำหน่ายอุปกรณ์ในโครงการภาคเอกชนต่างๆ เช่น โครงการจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 (ชั้น B2 ชั้น B1 และ G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคาร โครงการจำหน่ายระบบเมนเฟรมสารสนเทศ เป็นต้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมั่นใจว่าจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยบริษัทเตรียมที่จะเข้าประมูลงานใหญ่อีกหลายโครงการทั้งในส่วนงานภาครัฐและภาคเอกชนมูลค่าหลายพันล้าน คาดจะดันผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง ขณะที่ในสัปดาห์หน้าบริษัทเตรียมที่จะเซ็นสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยักษ์ใหญ่ของโลก เพื่อจะเข้ามาสนับสนุนความรู้และเทคโนโลยีด้าน AI ซึ่งจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในธุรกิจ สมาร์ท ซีเคียวริตี้ (Smart Security) และดิจิทัล แพลตฟอร์ม (Digital Platform) โดยเฉพาะเข้ามาร่วมพัฒนา AOT DIGITAL AIRPORTS ที่จะเปิดการใช้งานในวันที่ 21 สิงหาคม 2562 นี้ให้มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น รวมถึงโครงการทำ Digital Platform กับหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ในอนาคต