นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (ARROW) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2/2562 มีมติอนุมัติการจ่ายปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดครึ่งปีแรกของปี 2562 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท จำนวน 253,748,582 หุ้น รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 38,062,287.30 บาท เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 ส.ค. 2562 และจะกำหนดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 12 ก.ย. 2562 นี้
สำหรับการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 ที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 53.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.17 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 104.42 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/61 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 26 ล้านบาท ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 ทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ทำให้กำไรสุทธิเติบโตตามไปด้วย
สรุปผลประกอบการงวด 6 เดือน (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562) ของบริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวมเท่ากับ 736.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 46.55 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.75 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 689.56 ล้านบาท ขณะที่มี กำไรสุทธิเท่ากับ 86.22 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.6 เนื่องจากการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดและต้นทุนวัตถุดิบลดลงสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้บริษัทฯ ประเมินภาพรวมธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะฟื้นตัวอย่างโดดเด่นกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของงานระบบต่างๆในธุรกิจก่อสร้าง ซึ่งจะมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างสม่ำเสมอจากงานรับเหมาก่อสร้างที่ยังเติบโตและการเร่งรัดงานโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อีกทั้งทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 1,000 ล้านบาท ประกอบกับคาดว่าจะมีงานใหม่ๆ ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้รายได้และกำไรเติบโตอย่างยั่งยืน โดยปีนี้มั่นใจว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวโดดเด่น จากสภาวะตลาดและผลจากราคาวัตถุดิบที่เหมาะสม
"ไตรมาส 2 ปีนี้เป็นปีที่โดดเด่นทั้งด้านความสามารถในการทำกำไรและยอดขายที่เติบโตกว่าทุกปีที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทฯจึงได้มีอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ถือหุ้นบริษัทฯ และบริษัทยังคงมุ่งมั่นขยายธุรกิจเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตทั้งรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อผลักดันธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งๆขึ้นไป ซึ่งเป้าหมายของเราคือ อยากให้ผู้ถือหุ้นเติบโตไปพร้อมๆ" นายธานินทร์กล่าวในที่สุด