นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ของปี 2562 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 พบว่า บริษัทฯและบริษัทย่อยสามารถทำรายได้รวมถึง 1,151.1 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขาย มีรายได้อยู่ที่ 929.6 ล้านบาท และเป็นส่วนของธุรกิจเช่าและบริการอีก 79.8 ล้านบาท ทำให้เมื่อนำ ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2562 รวมกับไตรมาส 1/2562 ส่งผลให้ในช่วงระยะเวลาครึ่งปีแรกบริษัทฯ สามารถทำรายได้รวมครึ่งปีถึง 2,970.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 323.6 ล้านบาท หรือ 12.2% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2561 ขณะที่กำไรสุทธิครึ่งปีแรกอยู่ที่ 258.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51.5% เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
โดยรายได้หลักมาจากการขายอสังหาริมทรัพย์ยังคงดำเนินการเป็นไปตามแผนอย่างต่อเนื่อง พร้อมลุยเปิดอีก 4 โครงการในครึ่งปีหลัง ในส่วนรายได้ที่มาจากธุรกิจให้เช่าและบริการ มีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 2 โครงการหลักของกลุ่มบริษัทฯ คือ โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ซึ่งมีผู้เช่าให้ความสนใจจำนวนมาก มี Occupancy rate กว่า 90% และโครงการ พาร์ค คอร์ท สุขุมวิท 77 ที่สามารถปล่อยเช่าได้แล้วมากกว่า 75% ส่งผลให้รายได้สะสมในครึ่งปีแรกของธุรกิจทั้ง 2 นี้ อยู่ที่ 156.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 30.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นายวรสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของธุรกิจสนามกอล์ฟและธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์นั้น รายได้จากกิจการสนามกอล์ฟ ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ในช่วง 6 เดือนแรก เพิ่มขึ้นกว่า 20 % ขณะที่ธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์โดย บริษัท ยัวร์ส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือมีรายได้เพิ่มขึ้นสูงกว่า 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ซึ่งจากการที่ธุรกิจให้เช่าและธุรกิจบริการของกลุ่มบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีสัดส่วนกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยสัดส่วนกำไรขั้นต้นจากธุรกิจให้เช่าและธุรกิจบริการในไตรมาสนี้ ปรับเพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 30.3 โดยคาดว่าสัดส่วนกำไรขั้นต้นของธุรกิจฝั่งเพื่อขายกับฝั่งเพื่อเช่าและการบริการ จะมีสัดส่วนเป็น 50/50 ตามแผนธุรกิจ 5 ปีอย่างแน่นอน
"ในครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ ได้แก่ บ้านเดี่ยว 1 โครงการ และทาวน์โฮม 3 โครงการ มูลค่ารวม 4,560 ล้านบาท รวมถึงมีแผนลงทุนในโครงการสถานพยาบาล สถานฟื้นฟู และเวชศาสตร์ชะลอวัย (Wellness Center) ซึ่งมุ่งเน้นธุรกิจที่เป็นภาคการแข่งขันของประเทศไทยตามแผนธุรกิจ 5 ปีของบริษัทฯ เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนในระยะยาวโดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงกลางปี 2563" นายวรสิทธิ์ กล่าว