นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ7UP เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯงวดไตรมาส 2/2562 พลิกมีกำไรสุทธิ 36.79 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 13.27 ล้านบาท หรือมีกำไรเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 50.5 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 419.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.79 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 18.59% สาเหตุหลักผลักดันให้ผลประกอบการพลิกเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส เนื่องจากธุรกิจการขายแก๊สLPGและน้ำมัน ผ่านบริษัทย่อย บริษัท สตาร์แก๊ส จำกัด มีกำไรสุทธิ 5.59 ล้านบาท
ประกอบกับมีรายการพิเศษขอคืนภาษี จำนวน 10.76 ล้านบาท และรับคืนเงินมัดจำจำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่เคยรับรู้เป็นค่าเผื่อการลดลงของมูลค่าเงินมัดจำในปี 2561 แล้วทั้งจำนวน
ปัจจุบันรายได้หลักของบริษัทฯ มาจากธุรกิจขายแก๊สLPGและน้ำมัน โดยในไตรมาส 2/62 มีรายได้จากธุรกิจดังกล่าว 328 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้จากการบริหารงานขาย 40 ล้านบาท รายได้จากการจำหน่ายวิทยุและอุปกรณ์สื่อสาร ประมาณ 27 ล้านบาท รายได้จากการขายไฟฟ้า ประมาณ 13 ล้านบาท และรายได้จากการปรับปรุงคุณภาพน้ำ จำนวน 9 ล้านบาท
จากผลกำไรในงวดไตรมาส2/62 ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 มีจำนวน 1,446.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.97 ล้านบาท หรือ 4.55% มากกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ของบริษัทจดทะเบียน ทำให้เชื่อว่าหุ้นของบริษัทฯ จะได้รับการพิจารณาจากตลาดหลักทรัพย์ปลดเครื่องหมาย "C" ทำให้สามารถซื้อขายด้วยบัญชีเงินสดได้ ไม่ถูกจำกัดให้ซื้อขายเฉพาะบัญชีแคชบาลานเท่านั้น
ลักษณะธุรกิจของ7UP
กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจหลัก 4 ธุรกิจ ได้แก่ 1.) ธุรกิจตัวแทนนายหน้าในการจัดจำหน่าย แก๊ส LPG 2.) ธุรกิจพลังงานทดแทน/พลังงานทางเลือก 3.) ธุรกิจวิทยุสื่อสารโทรคมนาคม และ Internet of Things (IoT) และ4.) ธุรกิจปรับปรุงคุณภาพน้ำสำหรับฟาร์มกุ้ง