ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.3 ระบุผลงานรอบ 5 ปีของรัฐบาลลุงตู่ที่จับต้องได้ เช่น การก่อสร้างด้านคมนาคม อาทิ สถานีรถไฟฟ้าต่าง ๆ มอเตอร์เวย์ ทางต่างระดับปากช่องโคราช การต่อเติมสนามบิน เป็นต้น เป็นสิ่งที่จับต้องได้แตกต่างจากรัฐบาลอื่น ในขณะที่ร้อยละ 19.7 ระบุไม่มีผลงาน ไม่แตกต่าง
ที่น่าห่วงคือ เกือบ 1 ใน 3 หรือร้อยละ 31.3 ระบุ รัฐบาลที่มีคดีติดโกงทำประโยชน์ต่อส่วนรวมได้มากกว่ารัฐบาลที่ซื่อสัตย์ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.7 ระบุ รัฐบาลที่ซื่อสัตย์ทำประโยชน์ต่อส่วนรวมได้มากกว่า รัฐบาลที่มีคดีติดโกง
ที่น่าพิจารณาคือ ผลงานรัฐบาลลุงตู่ ที่ประชาชนต้องการให้เร่งสร้างมากที่สุด ผลสำรวจพบว่า อันดับแรกสูงสุดหรือร้อยละ 75.9 ระบุ แก้ปัญหาค่าครองชีพ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ รองลงมาหรือร้อยละ 5.7 ระบุ แก้ปัญหายาเสพติด อันดับสามหรือร้อยละ 3.1 ระบุ ช่วยด้านการศึกษาของคนยากจน อันดับสี่หรือร้อยละ 2.5 ระบุการดูแลสุขภาพของประชาชน ร้อยละ 2.0 ระบุเพิ่มความปลอดภัยของประชาชน และร้อยละ 10.8 ระบุผลงานอื่น ๆ เช่น แก้ปัญหาว่างงาน แก้ปัญหาเกษตรกร แก้ภัยแล้ง ภัยพิบัติ แก้ระบบภาษี แก้ปัญหาความแตกแยกของคนในสังคม เป็นต้น
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ทัศนคติของคนในชาติเป็นเรื่องสำคัญประการหนึ่งที่ทุกฝ่ายน่าจะหันมาเอาจริงเอาจังกับการบริหารจัดการทัศนคติของคนในชาติเพราะโพลครั้งนี้ชี้ว่าคนเกือบ 1 ใน 3 เห็นว่ารัฐบาลที่มีคดีติดโกงทำประโยชน์ส่วนรวมได้มากกว่ารัฐบาลที่ซื่อสัตย์และคนกลุ่มนี้มีจำนวนมากพอที่จะแผลงฤทธิ์ออกมาปั่นกระแสชี้นำและอาจสร้างความวุ่นวายในสังคมและยิ่งประชาชนส่วนใหญ่อยู่ในสภาพเดือดร้อนหนักเรื่องค่าครองชีพ รายได้ไม่พอกับรายจ่ายแล้ว ยิ่งจะทำให้ทัศนคติที่ดีของประชาชนส่วนใหญ่ถูกทำลายได้ ดังนั้น รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงต้องเร่งทำงานหนักขึ้นอีกตอบโจทย์ตรงความต้องการของประชาชน เพื่อป้องกันรักษาทัศนคติที่ดีของคนรุ่นใหม่เอาไว้ให้ได้