นายชูชีพ พงษ์ไชย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวพระราชดำริเพื่อที่จะนำความเจริญผาสุขมาสู่ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ความร่วมมือของประชาชน บนพื้นฐานหลักการทรงงานโดยเฉพาะ หลักการ "ระเบิดจากข้างใน" โดยมีภาครัฐเป็นผู้สนับสนุนนำความต้องการของชุมชนมาเป็นโจทย์การพัฒนาเชิงพื้นที่
"หลังจากการอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ คาดหวังให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม นำความรู้ไปใช้ในการจัดทำแผนงาน โครงการ กิจกรรมของชุมชนเอง ที่มีหลักคิดว่าเกิดจากความต้องการของคนในชุมชนอย่างแท้จริง จากฐานข้อมูลที่เป็นจริง เกิดการจัดทำแผนพัฒนาของหมู่บ้าน แผนพัฒนาอำเภอและจังหวัด และเป็นแผนของชุมชนให้หน่วยงานต่างๆวางแผนการส่งเสริมสนับสนุน โดยกลับไปเริ่มดำเนินการได้ทันที" นายชูชีพ ระบุ
ด้านนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ ที่ปรึกษาสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ในฐานะวิทยากร "การพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามแนวพระราชดำริ" กล่าวว่า หลักสำคัญในการพัฒนาเชิงพื้นที่ คือทุกฝ่ายต้องมีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาเป็นอย่างเดียวกัน มีความเชื่อและเข้าใจแนวพระราชดำริ มีทีมงานที่ดีและเก่ง ตลอดจนการมีโครงสร้างและความสัมพันธ์ของหน้าที่ของฝ่ายต่างๆ ที่เหมาะสมชัดเจน รวมถึงมีการบริหารโครงการและกิจกรรมให้เกิดผลสัมฤทธิ์ สามารถปรับเปลี่ยนไปตามบริบทที่เปลี่ยนแปลงโดย ที่สำคัญคือการมีข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้องพร้อมใช้งาน
ขณะที่นายสุทัศน์ บานเย็น นายกเทศมนตรีตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว ผู้เข้าร่วมฝึกอบรม กล่าวถึงหลักการพัฒนาตามแนวปิดทองหลังพระฯ ว่า เป็นแนวการพัฒนาที่มีความยั่งยืน มีการค้นหาปัญหาที่แท้จริงของชุมชน โดยเก็บข้อมูลทุกครัวเรือนเพื่อทำให้รู้ปัญหาที่แท้จริงซึ่งจะสามารถนำมาวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาได้ถูกต้อง และเมื่อนำแนวการพัฒนาไปปรับใช้ ทำให้เกือบทุกครัวเรือนมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ลดรายจ่ายครัวเรือน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าแนวทฤษฏีใหม่เป็นการแก้ไขปัญหาชุมชนและสังคมได้จริง
สำหรับเทศบาลตำบลปิงโค้ง พบว่า ชุมชนประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภค โดยทุกครัวเรือนต้องซื้อน้ำดื่มเฉลี่ยรวมเป็นเงินประมาณ 6 แสนบาทต่อเดือน ดังนั้น เทศบาลจึงเดินหน้าทำโครงการประปาหมู่บ้านซึ่งจะเก็บค่าน้ำในราคาที่เป็นธรรมและเมื่อมีรายได้จะเป็นกองทุนสำหรับนำมาพัฒนาสร้างและซ่อมระบบประปา โดยในระระยะต่อไป จะดำเนินการทำฝายเก็บน้ำและโครงการธนาคารอาหารชุมชน ซึ่งจะสนับสนุนให้ทุกครัวเรือนปลูกผักสวนครัว เลี้ยงไก่ รวมถึงการทำแก๊สชีวภาพจากเศษวัสดุในชุมชน ซึ่งโครงการทั้งหมด จะช่วยลดรายจ่ายครัวเรือนของสมาชิกในชุมชน