ด้วยการเติบโตแบบเรื่องใหญ่ของวัฒนธรรมอาหาร ทำให้ผู้ประกอบการหลายคน มีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงไม่น้อยหน้าเหล่าผู้บริโภค บางเจ้าเน้นการพัฒนาด้าน startup อาหาร บ้างก็หันมาจับไลน์สุขภาพแบบเต็มตัว เราจึงได้เห็นผลิตภัณฑ์มากมาย ที่มีส่วนผสมหรือวัตถุดิบหลักเป็นของเพื่อสุขภาพ อย่าง ธัญพืช, โฮลเกรน, ออร์แกนิค แม้กระทั้ง 'ข้าว' วัตถุดิบที่เราทานอยู่ทุกมื้อ ก็ถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตในอาหารเพื่อสุขภาพเช่นเดียวกัน
"ไวด์ เฟธ ฟู้ด" คือหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีการพัฒนาอาหารจากข้าวอย่างชัดเจน แม้อาจฟังดูไม่คุ้นหูคนไทย แต่บริษัทแห่งนี้คือผู้ส่งออกขนมข้าวแผ่นอบกรอบที่ทำจาก "ข้าวไทย 100%" ไปทั่วโลก ทั้งใน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส ยูเครน เบลเยี่ยม สโลเวเนีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน อเมริกา แคนาดา บราซิล ชิลี และ 'ไทย' มีรายได้ 1,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมด้วยโรงงาน 3 แห่ง ในนิคมอุตสาหกรรมบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชฯ จังหวัดชลบุรี ที่ได้รับการรับรอง เกรด AA จาก BRC มีกำลังการผลิตรวมกันสูงถึง 24,300ตัน/ปี
Healthy Junk Foods
คุณโอลิเวอร์ เย้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวด์ เฟธ ฟู้ด จำกัด เล่าว่า "ในตอนนี้เทรนด์การกินของโลกคืออาหารเพื่อสุขภาพ การทำขนมจากข้าวอาจเป็นสิ่งที่หลายคนเคยได้ยินมาบ้าง แต่สิ่งที่ทำให้ไวด์ เฟธ ฟู้ด แตกต่าง คือการทำไรซ์สแน็คในแนวทางที่แตกต่าง ลูกค้าหลายคนมองว่าแค่ขนมนี้ทำมาจากข้าวก็โอเค แต่น้อยคนจะรู้ว่าขนมเหล่านั้นใช้น้ำมันมากกว่า 30% ซึ่งมันไม่ต่างอะไรจากมันฝรั่งทอดเลย มันไม่ดีต่อสุขภาพ ต่างจากเราที่ใช้น้ำมันบางๆ เป็นสเปรย์ฉีดให้รสชาติติดขนม ซึ่งใช้น้ำมันน้อยกว่า 10%
เราเลยพูดได้อย่างมั่นใจว่าบริษัทอื่นๆ ไม่มีใครที่มีสินค้าแบบเรา ไม่สามารถสร้างสินค้าได้แบบเรา"
สินค้าทุกชนิดของ "ไวด์ เฟธ ฟู้ด" คือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากข้าว ทั้งข้าวขาวและข้าวสี ภายใต้ชื่อแบรนด์แม่ว่า "Master Rice" และมีแบรนด์ลูกอีกมากมาย ได้แก่ Rise Buddy, Allright ทั้งยังมีผลิตภัณฑ์จากข้าวที่มีส่วนผสมจากผักออร์แกนิคต่างๆ เสริมรสชาติและสุขภาพที่ดีอย่าง Rice Wonder และ Mello จุดเด่นของสินค้าทุกชิ้นคือ 'ความใส่ใจในสุขภาพ' ของผู้ทาน ด้วยการผลิตที่ ไม่ใส่ผงชูรส ปราศจากไขมันทรานส์ (Trans-Fat-Free) ปราศจากกลูเตน (Gluten Free) ใช้น้ำมันรำข้าวในปริมาณที่น้อยกว่า 10% เป็น 'Healthy Junk Foods' ที่ไม่เหมือนใคร
ผลิตภัณฑ์เพื่อผู้แพ้อาหาร
แม้ "ไวด์ เฟธ ฟู้ด" จะมีจุดแข็งด้านกำลังการผลิตที่สูงมากอยู่แล้วก็ตาม แต่บริษัทยังเตรียมเทเม็ดเงินลงทุนกว่า 700 ล้านบาท ในปี 2022 เพื่อขยายกำลังการผลิตรวม 3 ไลน์การผลิต ที่ 'โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชฯ จังหวัดชลบุรี' โดยจะเพิ่มเป็น 14,000 ตัน/ปี เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ผลิตได้ 10,800 ตัน/ปี เพื่อรองรับการเติบโตในตลาดต่างประเทศ รวมทั้งรองรับการผลิต 'สินค้าสำหรับผู้แพ้อาหาร' โดยเฉพาะ หมากแรกที่ไวด์ เฟธ ฟู้ด เริ่มเดินคือการผลิตอย่างระมัดระวัง เพื่อทำการขยายพื้นที่ผลิตใหม่นี้ ปลอดจากวัตถุดิบที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ เป็นส่วนโรงงานของสินค้า Non-allergy items (สินค้าที่ไม่ต้องระวังเรื่องการแพ้อาหาร) ซึ่งสินค้าชนิดนี้อาจมีส่วนผสมของกลูเตน แตกต่างจากสินค้าหลักที่เป็น Gluten Free (ผลิตภัณฑ์ปราศจากโปรตีนกลูเตน) โดยสินค้าเหล่านี้จะประกอบไปด้วยสินค้าประเภทถั่ว, กลูเตนไอเทม
นอกจากนี้ ไวด์ เฟธ ฟู้ด ยังเตรียมวางแผนสร้างอาหารเช้าที่สามารถบริโภคได้ทุกวัย เริ่มตั้งแต่เด็กเล็ก 9 เดือน ไปจนถึงผู้ใหญ่ ช่วยลดช่องว่างของสินค้า พร้อมตอบโจทย์ในการกินได้ทุกมื้อตั้งแต่มื้อเช้าจนถึงมื้อเย็น
การลงทุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์
ในปี 2019 จะถือเป็นปีสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของไวด์ เฟธ ฟู้ด โดยการขยายโรงงานในครั้งนี้ จะเป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น พร้อมช่วยลดค่าใช้จ่ายลงไปมากถึง 25% ทั้งยังเป็นตัวเพิ่มกำลังการผลิต และสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆ และที่สำคัญ คือการพัฒนาสัดส่วนของโรงงาน จากการเป็น ODM (Original Design Manufacturer) ในสัดส่วน 80% ต่อสัดส่วนการเป็นเจ้าของสินค้า 20% ให้กลายเป็นสัดส่วน 50:50%
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้บริษัทโฟกัสไปที่การควบคุมค่าใช้จ่าย และสามารถลงทุนกับสินค้าเพื่อสุขภาพใหม่ๆ ได้อย่างเต็มตัว
อีกหนึ่งสิ่งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงคือการเปิดรับนักลงทุนจากเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของ แบรนด์ ในรูปของ 'พันธมิตรทางธุรกิจ (strategic partnership)' เพื่อเพิ่มขีดการเติบโต สร้างผู้ช่วยและช่องทางในการกระจายสินค้า สร้างเครือข่ายแบรนด์ในวงกว้าง ทั้งยังช่วยในการส่งออก เพื่อเตรียมก้าวไปสู่ผู้นำสินค้าในในระดับนานาชาติ
การเปลี่ยนแปลงของ "ไวด์ เฟธ ฟู้ด" คือหนึ่งในภาพการปรับตัวของผู้ประกอบธุรกิจด้านอาหารที่ชัดเจนที่สุด จากการเป็นผู้เล่นเดี่ยวของสินค้าข้าวแผ่นอบกรอบ สู่การขยายโรงงาน เพิ่มบทบาทจากผู้ผลิตสู่ผู้เล่น และพัฒนาสินค้าตอบโจทย์ด้านสุขภาพ พร้อมก้าวสู่การผลิตสินค้าเพื่อผู้แพ้อาหาร รวมถึงการร่วมมือระหว่างพันธมิตรเพื่อกระจายสินค้าให้ไปสู่ในระดับนานาชาติ
จะเห็นได้ว่าแม้ 'ข้าว' จะเป็นวัตถุดิบหลักที่ทานกันอยู่ทุกมื้อ ก็สามารถปรับเปลี่ยนสู่รูปแบบใหม่ที่เราไม่อาจคาดเดาได้เช่นกัน และในอนาคต ความเป็นเรื่อง 'ใหญ่' ของ 'เรื่องกิน' อาจเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เรามาทานอาหารเช้าจาก ไวด์ เฟธ ฟู้ด แทนจานหลักอย่าง 'ข้าว' ก็เป็นได้...
สามารถหาซื้อ ไรซ์ บัดดี้ ได้แล้ววันนี้ ที่ Tops Markets & Daily , Gourmet Market, Home Fresh Mart ,ตั้ง ฮั่ว เส็ง, เจ้เล้ง, UFM Fuji Super, TOKYO, Max Mart ( PT gas station) ลอว์สัน 108 บิ๊กซี, แฟมิลี่มาร์ท และวิลล่ามาร์เก็ต