ทส.ชี้แจงการถมทะเลในพื้นที่แหลมฉบัง

อังคาร ๒๐ สิงหาคม ๒๐๑๙ ๑๐:๕๖
จากกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนได้คัดค้านแนวคิดการถมทะเลในพื้นที่แหลมฉบัง เพื่อก่อสร้างท่าเรือ–โรงงานปิโตรเคมี โดยจะถมทะเลในพื้นที่แหลมฉบังเพื่อรองรับท่าเรือและโรงงานดังกล่าวจำนวน 1 – 3 พันไร่ โดยเห็นว่าเป็น การเอื้อประโยชน์ให้เอกชนซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ อีกทั้ง อุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นเพียงอุตสาห-กรรมผลิตเม็ดพลาสติกในอุตสาหกรรมต้นน้ำ ซึ่งไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษตามนโยบายของ EEC นอกจากนี้ การถมทะเลจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและวิถีทางการประมงพื้นบ้านและ การท่องเที่ยวของชุมชนในบริเวณทะเลแหลมฉบัง อ่าวอุดม เกาะสีชัง และการถมทะเลดังกล่าวจะเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทต่างชาติ ซึ่งอาจเข้าข่ายการละเมิดสิทธิการจัดการ บำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืนตามกฎหมายไทยได้

นายโสภณ ทองดี ผู้ตรวจราชการกระทรวง ในฐานะโฆษกประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การถมทะเลเป็นกระบวนการสร้างที่ดินใหม่ โดยการถมทราย ดิน หรือโคลน หรือวัสดุอื่นใดในพื้นที่ทะเลรวมไปถึงชายฝั่งทะเล เพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินนั้นในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 พระราชบัญญัติ ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 และประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งจะเน้นด้านผลกระทบต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมิได้มีอำนาจในการอนุญาตหรืออนุมัติในการก่อสร้างหรือถมทะเลแต่อย่างใด ซึ่งการอนุญาตหรืออนุมติเพื่อดำเนินการจะขึ้นอยู่กับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องแล้วแต่กรณี

ด้านนายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ตรวจสอบระเบียบที่เกี่ยวข้องและทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ดังกล่าวโดยละเอียด ทั้งนี้ การถมทะเลดังกล่าวซึ่งมีขนาดมากกว่า 300 ไร่ จะต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดโครงการกิจกรรม หรือการดำเนินการที่อาจมีผล กระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย และคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนอย่างรุนแรง ซึ่งจะต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดล้อม ซึ่ง EIA ดังกล่าวจะมีคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงาน โดยคณะกรรมการดังกล่าวจะประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่าง ๆ ร่วมกันพิจารณากลั่นกรอง ถึงผล กระทบที่จะเกิดขึ้นทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม สุขภาพประชาชน และกฎระเบียบต่าง ๆ นอกจากนี้ สผ. จะได้สอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอความคิดเห็นประกอบ การพิจารณาอีกด้วย สำหรับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ที่กล่าวอ้างว่าจะมีการดำเนินการ ทช. ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้สำรวจพื้นที่บริเวณดังกล่าวเบื้องต้นแล้ว พบว่า มีแนวปะการังที่ใกล้แหลมฉบังมากที่สุดอยู่ที่เกาะสีชัง มีระยะห่างออกไปในทะเลทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 10 กิโลเมตร โดยในพื้นที่หมู่เกาะสีชังมีแนวปะการังประมาณ 271 ไร่ พบมากบริเวณเกาะสีชัง-ยายท้าว 57 ไร่ เกาะขามใหญ่ 67 ไร่ และเกาะท้ายตาหมื่น 77 ไร่ ที่เหลือกระจายใน พื้นที่เกาะใกล้เคียงอีกประมาณ 70 ไร่ ซึ่งโครงการที่จะดำเนินการในบริเวณดังกล่าว จะต้องศึกษาถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับทรัพยากรดังกล่าวด้วย

นายโสภณ ทองดี โฆษกประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มีหน้าที่ปกป้อง คุ้มครอง รักษา อนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศเพื่อให้คงอยู่ และสร้างสมดุลในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เน้นย้ำการดำเนินการใด ๆ จะต้องมีความถูกต้องของกฎหมาย บูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน และแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน สร้างประโยชน์แก่ประชาชนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ หากโครงการดังกล่าวจำเป็นต้องดำเนินการ ก็จะต้องปฏิบัติตาม ระเบียบและกฎหมายที่กำหนด โดย ทส. จะได้พิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้อง ต่อไป นายโสภณ ทองดี โฆษกประจำกระทรวง กล่าวในที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๒๔ แจกจริง! แบรนด์ซุปไก่สกัดส่งมอบรถเทสล่า มูลค่า 1.649 ล้านบาท ให้ผู้โชคดี ในแคมเปญ ดื่มแบรนด์ สแกนเลขในขวด ปี
๑๓:๕๐ GFC ตอบโจทย์ทุกความปลอดภัยเรื่องอาคาร - ถังแช่แข็งตัวอ่อน เปิดให้บริการสำหรับผู้มีบุตรยากตามปกติครบ 3
๑๓:๕๗ KJL ลุยภาคใต้! จัดใหญ่สัมมนา 'รวมพลคนไฟฟ้า ON TOUR' ที่ภูเก็ต
๑๒:๐๐ แว่นท็อปเจริญ จับมือ กรมกำลังพลทหารบก แนะแนวการศึกษาและอาชีพ สร้างโอกาสแก่ทหารกองประจำการและครอบครัว
๐๒ เม.ย. AnyMind Group คว้ารางวัล Gold ในงาน Martech Innovation Awards 2025
๐๒ เม.ย. โชว์พลังดีไซน์ไทยในงาน STYLE Bangkok 2025 รวมแบรนด์ดาวรุ่งจาก Talent Thai และ Designers' Room ที่คุณไม่ควรพลาด
๐๒ เม.ย. ธนาคารกสิกรไทย จัดสัมมนาใหญ่ K WEALTH Forum: เจาะลึก 5 ปัจจัยเปลี่ยนเกมการลงทุนโลก
๐๒ เม.ย. PSP ปิดดีลทุ่ม 409.5 ลบ. ถือหุ้นใน รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง (RE) ปักหมุดธุรกิจสู่ศูนย์กลางรีไซเคิลสารเคมีแห่งภูมิภาค
๐๒ เม.ย. กลุ่มซีไอเอ็มบี เปิดรับสมัครสอบชิงทุน CIMB ASEAN Scholarship 2025 ทุนเรียนต่อปริญญาตรี - ปริญญาโท พร้อมโอกาสร่วมงานกับกลุ่มซีไอเอ็มบี
๐๒ เม.ย. ศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค เปิดพิกัดจุดสรงน้ำพระ เสริมสิริมงคลกับเทศกาล สงกรานต์อิ่มบุญ