ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ รวม 99.97% ของบริษัท นวนครการไฟฟ้า จำกัด ("NNE") เป็นเงินจำนวน 1,998.40 ล้านบาท ส่งผลให้ราช กรุ๊ป เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และได้รับสิทธิในการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าเอสพีพีดังกล่าว และคาดว่าราช กรุ๊ป จะเข้าไปดำเนินการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าแห่งนี้อย่างเป็นทางการได้ในเดือนตุลาคม ศกนี้
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเข้าซื้อกิจการในโครงการโรงไฟฟ้านวนครโคเจนเนอเรชั่น เป็นความสำเร็จในการขยายการเติบโตตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงกระแสเงินสดและรายได้ของบริษัทฯ ยิ่งขึ้น เพราะเป็นโครงการที่เดินเครื่องจำหนายกระแสไฟฟ้าแล้ว และยังมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ที่มีระยะเวลาคงเหลือเกือบ 20 ปี
"โครงการนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทฯ ได้ทันที โดยกระแสไฟฟ้า 90 เมกะวัตต์จำหน่ายแก่กฟผ. ส่วนกระแสไฟฟ้าที่เหลือ พร้อมทั้งไอน้ำ จะผลิตและจำหน่ายแก่ลูกค้าอุตสาหกรรมในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรม นวนคร ซึ่งบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าอุตสาหกรรมให้มากขึ้น อีกทั้งยังมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นในอนาคตอีกด้วย สำหรับเงินลงทุนบริษัทฯ ได้จัดสรรเงินทุนและจัดหาเงินกู้สัดส่วน 35 ต่อ 65 เพื่อซื้อโครงการดังกล่าวและคาดว่าดีลจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกันยายนศกนี้" นายกิจจา กล่าว
ความสำเร็จในการซื้อกิจการโรงไฟฟ้านวนครครั้งนี้ ส่งผลให้กำลังผลิตที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ตามสัดส่วนการลงทุน เพิ่มขึ้นเป็น 7,047.54 เมกะวัตต์ โดยกำลังผลิตไฟฟ้าส่วนที่เหลือจากการจำหน่ายตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. และไอน้ำที่ผลิตได้จะถูกขายให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำกำลังเติบโต เป็นการช่วยเสริมให้ระบบพลังงานในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนครมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น" นายกิจจา กล่าวปิดท้าย
ข้อมูลโดยสังเขป บมจ. ราช กรุ๊ป
บมจ. ราช กรุ๊ป (เดิมชื่อ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2543 มีทุนจดทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 14,500 ล้านบาท มีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 45% บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในลักษณะของบริษัทโฮลดิ้ง โดยลงทุนถือหุ้นผ่านบริษัทย่อย และบริษัทร่วมทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การลงทุนมุ่งเน้นธุรกิจผลิตไฟฟ้าเป็นหลัก ต่อมาได้ขยายการลงทุนสู่ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับไฟฟ้าและพลังงาน ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการลงทุนโครงการต่างๆ ใน 5 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย สปป.ลาว ออสเตรเลีย จีน และอินโดนีเซีย ประเทศไทยถือเป็นฐานประกอบธุรกิจหลัก สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ratch.co.th