เนสกาแฟ" (Grown Respectfully) ซึ่งสอดคล้องกับหลักปฏิบัติในระดับสากลของแบรนด์เนสกาแฟ ที่มีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาคุณภาพกาแฟ ควบคู่ไปกับยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวสวนกาแฟอย่างยั่งยืน
เนสกาแฟ เรดคัพ มอบความหอมอร่อย เต็มรส เต็มกลิ่นจากกาแฟคั่วบดละเอียด ผ่านการนำเสนอภาพของตัวแทนชาวสวนกาแฟจำนวน 12 คนผู้ปลูกกาแฟด้วยใจ เพื่อสร้างสรรค์กาแฟคุณภาพให้กับคอกาแฟชาวไทย ซึ่งภาพบนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดเป็นผลงานการลั่นชัตเตอร์ของ ชำนิ ทิพย์มณี ถ่ายทอดจิตวิญญาณและรอยยิ้มแห่งความภูมิใจของชาวสวนกาแฟไทย ปรากฏตัวเคียงข้างแก้วเนสกาแฟสีแดงอันเป็นไอคอนนิคของแบรนด์
นายธนธร พันพานิชย์กุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ เรดคัพ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า "ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลาดกาแฟผงสำเร็จรูปในไทยเติบโตต่อเนื่องถึง 10% เนสกาแฟ เรดคัพ ในฐานะผู้นำตลาด จึงเปิดตัว 'เนสกาแฟ เรดคัพ คอลเลคชั่น ปลูกด้วยใจ' เพื่อแสดงถึงความตระหนักในคุณค่าของชาวสวนกาแฟไทย
ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเนสกาแฟมาตลอด 46 ปี เราหวังว่า 'เนสกาแฟ เรดคัพ คอลเลคชั่น ปลูกด้วยใจ' จะเป็นเครื่องย้ำเตือนให้ทุกครั้งที่คอกาแฟไทยดื่มด่ำกับกาแฟแก้วโปรดจากเนสกาแฟ เรดคัพ จะนึกถึงชาวสวนกาแฟทุกท่านที่ทุ่มเทปลูกกาแฟด้วยหัวใจเพื่อเมล็ดกาแฟคุณภาพเยี่ยม ซึ่งถือเป็นการเชื่อมความผูกพันระหว่างเนสกาแฟ ชาวสวนกาแฟ และ
คอกาแฟไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น"
นอกจากนี้ เนสกาแฟ เรดคัพ ยังจัดแคมเปญสื่อสารทางการตลาดอย่างครบวงจร เพื่อส่งต่อเรื่องราวของกาแฟที่ปลูกด้วยใจ ไปสู่ใจคอกาแฟไทยทั่วประเทศ โดยการเปิดตัว "เนสกาแฟ เรดคัพ คอลเลคชั่น ปลูกด้วยใจ" ได้รับการสนับสนุนด้วยกิจกรรมมากมาย อาทิ ภาพยนตร์โฆษณาชื่อ "เรื่องราวจากใจคนปลูกสู่ใจคนดื่ม" ความยาว 2 นาที เผยแพร่ทางสื่อดิจิทัล รวมทั้งการจัดโปรโมชั่นในร้านค้า และสื่อประชาสัมพันธ์ ณ จุดขาย ทั่วประเทศ
โครงการ "ปลูกด้วยใจ กาแฟไทยยั่งยืนกับเนสกาแฟ" (Grown Respectfully) ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญได้แก่ การตระหนักถึงคุณค่าของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ การสร้างคุณค่าให้ชุมชน และการรักษาคุณค่าของสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันมีชาวสวนกาแฟกว่า 2,500 รายเข้าร่วมโครงการ ซึ่งดำเนินการครอบคลุมในพื้นที่ 5 จังหวัดที่ปลูกกาแฟเป็นหลักของไทย คือ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และจันทบุรี เนสกาแฟได้ดำเนินการแจกจ่ายต้นกล้ากาแฟพันธุ์ดีออกสู่เกษตรกรที่อยู่ในโครงการไปแล้วกว่า 1.6 ล้านต้นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันนักวิชาการเกษตรของเนสท์เล่สามารถยกระดับผลผลิตกาแฟเฉลี่ยต่อปีของไทยให้สูงขึ้นเป็น 1.45 ตันต่อเฮกเตอร์ เทียบกับในอดีตที่ 0.9 ตันต่อเฮกเตอร์ พร้อมกันนี้เนสกาแฟยังได้ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร ในการวิจัยและปรับปรุงพันธุ์กาแฟโรบัสต้ามาตั้งแต่พ.ศ. 2542
พบกับความหอมอร่อย เต็มรส เต็มกลิ่น ของกาแฟที่ปลูกด้วยใจจากชาวสวนกาแฟไทย จากเนสกาแฟ เรดคัพ คอลเลคชั่น ปลูกด้วยใจ ทั้ง 12 ดีไซน์ได้ในรูปแบบกล่องขนาดบรรจุ 380 กรัม ราคา 219 บาท แบบขวดขนาดบรรจุ 200 กรัม ราคา 149 บาท ขนาดบรรจุ 100 กรัม ราคา 79 บาท และแบบซองขนาดบรรจุ 180 กรัม ราคา 120 บาท และขนาดบรรจุ 90 กรัม ราคา 63 บาท ที่ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศได้แล้ววันนี้ จนถึง 30 กันยายน หรือจนกว่าของจะหมด
เนสท์เล่เป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ครอบคลุม 190 ประเทศทั่วโลก พนักงานเนสท์เล่กว่า 308,000 คนต่างมีพันธสัญญาต่อเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต เนสท์เล่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้คนและสัตว์เลี้ยงครอบคลุมในทุกช่วงวัยมากกว่า 2,000 แบรนด์ ทั้งที่เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก เช่น เนสกาแฟ หรือ เนสเพรสโซ ตลอดจนแบรนด์ที่เป็นที่ชื่นชอบในท้องถิ่นอย่าง ตราหมี หรือ มิเนเร่ บริษัทฯ ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ปัจจุบัน เนสท์เล่ก่อตั้งมานานกว่า 150 ปี โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเวเวย์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ จัดจำหน่ายโดย บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ซึ่งถือหุ้น 100% โดย เนสท์เล่ เอส. เอ. ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตภัณฑ์เนสกาแฟในประเทศไทย ได้แก่ เนสกาแฟ เรดคัพ เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู เนสกาแฟ อเมริกาโน่ เนสกาแฟ โกลด์ เนสกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม
เนสกาแฟ โพรเทคโพรสลิม และ เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนสท์เล่ ไทยผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ได้ที่ Website: https://www.nestle.co.th
Facebook: https://www.facebook.com/goodfoodgoodlifebyNestleThailand
YouTube: https://www.youtube.com/user/NestleThailand