PALMEX Thailand 2019 มุ่งเน้นเพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากนักวิชาการ สู่ภาคธุรกิจและเกษตรกรในการเตรียมความพร้อมเข้าสู้ประชาคมอาเซียน รวมถึงการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยันยืนของประเทศ ทีเอสพีโอ(TSPO) ภายใต้มาตรฐานสินค้าเกษตรของ ซึ่งจะเทียบเท่ามาตรฐาน อาร์เอสพีโอ (RSPO) เปิดโอกาสภาครัฐและเอกชนจากนานาชาติ เช่น ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอร์มันนี ออสเตรเลีย สวิสเซอร์แลนด์ มาเลเซีย อินโดนีเชีย อินเดีย จีน ญี่ปุ่น และอิตาลี ได้มีการนำเสนอและแลกนวัตกรรมที่มีการศึกษาและวิจัยขึ้นมา และเป็นการรวบรวมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ ระดับนานาชาติ
คุณภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ประธานในพิธีเปิดงาน กล่าวว่า ถือว่าเป็นเป็นความร่วมมือของผู้ประกอบการการผลิตในทุกภาคส่วน รวมถึงภาคอุตสาหกรรมที่สนับสนุนธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อแสดงถึงศักยภาพ นวัตกรรมล่าสุดในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในงาน PALMEX Thailand 2019 ซึ่งอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของประเทศไทย ซึ่งเป็นอันดับ 3 ของโลก และปาล์มน้ำมันเป็นพืชน้ำมันอุตสาหกรรมชนิดเดียวของประเทศไทยที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับพืชน้ำมันชนิดอื่น ๆ ซึ่งในปี พ.ศ. 2557 ปาล์มน้ำมันมีมูลค่าทางการตลาดภายในประเทศสูงมากกว่า 1.8 แสนล้านบาท และเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง นับตั้งแต่ ปี 2542 ประเทศไทยสามารถผลิตน้ำมันปาล์ม เพื่อใช้ในประเทศได้อย่างเพียงพอ รัฐบาลไทยได้เล็งเห็นความสำคัญ และให้การสนับสนุนผู้ปลูก และอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มตลอดมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมเพื่อใช้
น้ำมันปาล์มเป็นแหล่งพลังงานทดแทนทางชีวภาพ โดยกระทรวงพลังงาน ได้กำหนดให้น้ำมันดีเซลมีส่วนผสมของน้ำมัน B100 เป็นร้อยละ 7 และตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นมา ได้มีโครงการส่งเสริมการใช้ B10 และ B20 นโยบายการส่งเสริมนี้ ได้ส่งผลให้เกิดการตื่นตัวและขยายตัวของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเป็นอย่างมาก และในปีนี้โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในการระบายน้ำมันปาล์มคงคลังเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า อันจะส่งผลให้นำผลผลิตส่วนเกินมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับระบบเศรษฐกิจของไทย
"จังหวัดชลบุรีมีความยินดีและพร้อมที่จะประสานหน่วยงานในพื้นที่สนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ และมุ่งหวังว่าจะสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของไทยให้มีศักยภาพเทียบกับนานาชาติได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน สอดคล้องกับแนวทางโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก EEC ในการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพ และยินดีต้อนรับผู้นำเกษตรกรทุกกลุ่มจากทั่วประเทศ รวมถึงกลุ่มเกษตรกรอิสระผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน 4 รายแรกของโลกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน RSPO ที่ได้เข้าร่วมงาน Palmex Thailand 2019 ครั้งนี้" คุณภัครธรณ์ กล่าว
ซึ่งงาน Palmex Thailand ปี้นี้จัดขึ้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรีเป็นครั้งแรก ทางผู้จัดงานเล็งแล้วเห็นว่าภาคตะวันออก เป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ำมันสำคัญของประเทศและเพื่อให้เกษตรกรจากจังหวัดข้างเคียง สามารถเข้าร่วมงานได้โดยสะดวก
คุณรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า "ในฐานะเมืองเจ้าภาพ รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ต้อนรับผู้ร่วมงานและถือว่าเป็นโอกาสดีสำหรับทุกท่านที่จะร่วมมือกัน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีในธุรกิจปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ และก่อให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและของโลก และการสัมมนาวิชาการนี้จะเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์เพื่อนำไปพัฒนาตนเอง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันของไทยอย่างยั่งยืนในที่สุด"
"เมืองพัทยา มีความพร้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อมต่อการจัดประชุมนานาชาติ ทั้งสถานที่จัดการประชุม สายการบินตรงจากต่างประเทศมาสู่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา โรงแรมที่พักชั้นดี สำหรับผู้เข้าร่วมชมงานจากนานาประเทศ ซึ่งนอกจากจะได้รับทราบถึงอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในประเทศไทยแล้ว ยังมีโอกาสได้พักผ่อนกับชายหาดท้องทะเลพัทยาแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก"
ภายในงาน จะมีการจัดแสดงสินค้าเกี่ยวกับการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างครบวงจร การบรรยายเกี่ยวกับแนวโน้มราคาตลาดโลกของน้ำมันปาล์ม ภาพรวมและแผนพัฒนาอุตสาหกรรมไบโอดีเซลของประเทศไทย และเวทีเสวนาการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน และความท้าทายของเกษตรกรรายย่อยในไทย จากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม การเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก โรงงานสุขสมบูรณ์ ใน ต. ห้างสูง อ. หนองใหญ่ จ. ชลบุรี
ซึ่งคาดว่าในการประชุมครั้งนี้ เกษตรกรและผู้ประกอบในพื้นที่จังชลบุรี และจังหวัดข้างเคียงจำนวนไม่น้อยกว่า 2,000 ราย จะได้ความรู้และเข้าใจในการเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และการการผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนของประเทศไทย รวมทั้งภาคเอกชนที่เก่ยวข้องกับอุตสาหกรรมจำนวนไม่น้อยกว่า 200 บริษัทได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีการผลิตและลู่ทางการตลาด รวมทั้งธุรกิจสนับสนุนอื่นๆ สามารถสร้างช่องทางการผลิตเพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมันได้ไม่น้อยกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะส่งผลต่อธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและแข่งขันในตลาดโลกเสรีได้อย่างยั่งยืน คุณไพชยนต์ กังวลกิจ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดชลบุรี ผู้แทนสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวในพิธีเปิดงาน PALMEX Thailand 2019