ซีอีโอหัวเว่ย: บัญชีดำของสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งผลต่อหัวเว่ยมากนัก

ศุกร์ ๒๓ สิงหาคม ๒๐๑๙ ๐๙:๒๙
บัญชีดำ (Entity List) ของสหรัฐอเมริกาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อหัวเว่ยมากเท่าใดนัก อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงส่วนใหญ่ของหัวเว่ยไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนของสหรัฐฯ เลย แต่กลับมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเคย มร. เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ หัวเว่ย กล่าวในการสัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้

เมื่อวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2562 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ประกาศขยายใบอนุญาตทางการค้าเพื่อให้หัวเว่ยสามารถซื้อผลิตภัณฑ์และบริการจากบริษัทอเมริกันและให้บริการแก่ลูกค้าที่มีอยู่ได้ต่อไป

หัวเว่ยตอบกลับว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อธุรกิจของบริษัท และหัวเว่ยจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และจะมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทั่วโลกต่อไป

"ก่อนอื่นเลย โปรดรับทราบไว้ด้วยว่า การรวมพวกเราเข้าไว้ในรายชื่อ Entity List นั้นไม่ยุติธรรมเลย หัวเว่ยไม่ได้ทำอะไรผิด แต่กลับต้องไปอยู่ในรายชื่อดังกล่าว" มร. เหริน เจิ้งเฟย ให้สัมภาษณ์กับสกาย นิวส์ เมื่อเร็วๆ นี้

อุปกรณ์ที่ทันสมัยส่วนใหญ่ของเราไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนของสหรัฐฯ เลย แม้ว่าในอดีตเราจะใช้ชิ้นส่วนของพวกเขาก็ตาม อุปกรณ์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของเรายังมีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าเมื่อก่อนถึง 30% อีกด้วย" มร. เหริน กล่าว "ในปีนี้ เราจะผลิตสถานีฐาน 5G ได้ 600,000 ชุด และอย่างน้อย 1.5 ล้านชุดในปีหน้า นั่นหมายถึงว่า เราไม่ต้องพึ่งพาบริษัทอเมริกันเพื่อความอยู่รอดของเราในด้านนี้เลย

"อย่างไรก็ตามที เราก็จะยังอ้าแขนต้อนรับบริษัทอเมริกันอยู่เสมอ ตราบเท่าที่พวกเขายังสามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ให้เราได้ เราก็จะยังซื้อชิ้นส่วนจากพวกเขาในปริมาณมาก ๆ ต่อไป" มร. เหรินกล่าวต่อ "เราเชื่อว่าโลกาภิวัตน์นั้นจะสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกคน เราจึงจะไม่เลือกปิดประตูใส่ใคร แม้ว่าเราจะสามารถผลิตชิ้นส่วนบางอย่างได้ด้วยตัวเองก็ตาม"

มร. เหรินเปิดเผยว่าบริษัทอเมริกันบางแห่งได้เริ่มกลับมาขายชิ้นส่วนให้แก่หัวเว่ยแล้วและปริมาณการสั่งซื้อจากหัวเว่ยไม่เคยลดน้อยลงเลย "หากไม่มีทรัมป์คอยโปรโมตให้ ผู้คนมากมายทั่วโลกคงไม่ได้ทราบว่าผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยนั้นมีความล้ำสมัยมากเพียงใด ทรัมป์นี่แหละเป็นคนที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้เรา" มร. เหริน กล่าว เมื่อนักข่าวถามถึงประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งมักมีความเห็นที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเกี่ยวกับหัวเว่ย

จากสถิติของบริษัทในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หัวเว่ยมีผู้ให้บริการเครือข่ายมาเยี่ยมชมโรงงานเพิ่มขึ้นถึง 49% "พวกเขาต้องการมาตรวจดูว่าเราจะยังจัดหาผลิตภัณฑ์ให้พวกเขาได้ และเมื่อได้ทราบว่าผลิตภัณฑ์ของเราไม่จำเป็นต้องใช้ชิ้นส่วนจากสหรัฐฯ พวกเขาก็ยิ่งมั่นใจและสั่งออเดอร์จำนวนมาก" มร. เหริน กล่าว

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 รายได้ของหัวเว่ยพุ่งสูงถึง 401,300 ล้านหยวน ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้น 23.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน "บริษัทของเราไม่ได้ต้องการสิ่งใดนอกไปจากการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าและทำงานของเราให้สำเร็จลุล่วง เรามีเพียงเป้าหมายเดียวและจดจ่ออยู่กับเป้าหมายนี้มาโดยตลอด เราเชื่อว่าการลงทุนลงแรงในด้านหนึ่งเป็นเวลาหลายทศวรรษจะทำให้เราก้าวขึ้นเป็นผู้นำได้ในที่สุด" มร. เหริน กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ