สมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้ ร่วมกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) จัดทำแผนแม่บทพัฒนาป่าชายเลนและระบบนิเวศชายฝั่งของจังหวัดเพชรบุรี

ศุกร์ ๒๓ สิงหาคม ๒๐๑๙ ๑๗:๐๔
สมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจในการจัดทำแผนแม่บทเพื่ออนุรักษ์ป่าชายเลนอย่างยั่งยืน ครอบคลุมพื้นที่ 24 ตารางกิโลเมตรในจังหวัดเพชรบุรี

เพชรบุรีเป็นจังหวัดที่มีสภาพแวดล้อมทางทะลที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่การใช้ชีวิตแบบคนเมืองและกิจกรรมชายฝั่งต่าง ๆ เช่นการทำนาเกลือได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศชายฝั่ง โดยปัจจุบันจังหวัดเพชรบุรีมีพื้นที่ป่าชายเลนคงเหลือเพียง 17% เท่านั้น

ดร.ชวัลวัฒน์ และคุณทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์ ผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้กล่าวว่าการจัดทำแผนแม่บทนี้ตั้งเป้าที่จะสร้างความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนให้แก่มนุษย์รวมถึงพืชและสัตว์ด้วย "การร่วมมือกันในครั้งนี้เพื่อหาหนทางสำหรับมนุษย์และธรรมชาติให้อยู่ร่วมก้นอย่างมีความสุข"

"ป่าชายเลนนอกจากจะช่วยรักษาสมดุลของโลกเราแล้วยังมีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของชุมชนท้องถิ่นด้วย เนื่องจากป่าชายเลนมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะและฟูมฟักของสัตว์น้ำที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรมประมงและการท่องเที่ยว หัวใจสำคัญของการพัฒนาแผนแม่บทนี้จึงเน้นการส่งเสริมให้ชาวบ้านเป็นผู้ร่วมปกป้องป่าชายเลนของพวกเขา" ดร.ชวัลวัฒน์ กล่าว

สมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้จะร่วมทำงานกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ภายใต้กรอบระยะเวลา 3 ปี โดยแผนแม่บทที่พัฒนาขึ้นนี้จะสอดรับกับนโยบายและยุทธศาสตรืของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โครงการนี้จะทำการพัฒนาต้นแบบในระดับโลกของป่าชายเลนในเมืองสำหรับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการพัฒนาที่ยั่งยืนในพื้นที่ป่าจำนวน 400,000 ตารางเมตร ณ ตำบลบางตะบูนออก รวมถึงการขยายผลไปสู่การจัดการขยะพลาสติกที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลอย่างวาฬบรูด้า และการวิจัยนำร่องในการฟื้นฟูป่าชายเลนในสภาพดินเค็มจัดในพื้นที่นาเกลือทิ้งร้าง ณ ตำบลปากทะเล

ขณะที่คุณโลวิต้า รามกุทธี รักษาการผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทยเผยว่าโครงการนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อชายฝั่งทะเลไทย

"แผนแม่บทนี้ครอบคลุมปัจจัยสำคัญและเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการอนุรักษ์ระบบนิเวศชายฝั่ง เราต้องร่วมมือกับชาวบ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการร่วมพัฒนาและดำเนินการโครงการตั้งแต่เริ่มต้นโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติมีบทบาทหลักในการประสานผู้มีส่วนได้เสียทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับสากลเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และร่วมดำเนินการ การร่วมมือกันในครั้งนี้เป็นการทำงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 13 (การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) และเป้าหมายที่ 14 (การใช้ประโยชน์จากมหาสมุทรและทรัพยากรทางทะเล) และเป้าหมายที่ 15 (การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางบก)

สมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้และ UNDP จะทำงานร่วมกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในชุมชน หน่วยงานสาธารณะ และผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) ซึ่งเป็นหน่วยงานของ MQDC และทีม Urban Action Team จากบริษัทดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในการดำเนินงานโครงการนี้

สำหรับบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ได้รับการลงนามโดยดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ นายกสมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้ คุณทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์ อุปนายกสมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้ และดร.วิทย์ สุนทรนันท์ กรรมการและเหรัญญิกสมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้

โดยตัวแทนจาก UNDP ได้แก่คุณโลวิต้า รามกุทธี รักษาการผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ และคุณแสงโรจน์ ศรีสวัสดิ์ไกรศร หัวหน้าทีม IGSD UNDP ประเทศไทย และหน่วยงานพัฒนาที่ยั่งยืน

#MQDC #ForAllWellBeing

เกี่ยวกับป่าชายเลนในประเทไทย

ป่าชายเลนถือเป็นระบบนิเวศที่สำคัญอันดับต้น ๆ แต่ก็ถูกคุกคามมากที่สุดเช่นกัน ป่าชายเลนมีบทบาทในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพราะสาสมารถเก็บคาร์บอนได้ประมาณ 1,000 ตันในแต่ละเฮกตาร์ (1 เฮกต้าร์เท่ากับ 100 เอเคอร์ หรือ 10,000 ตารางเมตร) อีกทั้งป่าชายเลนคือที่อยู่และแหล่งอาหารสำหรับสัตว์บนและทะเลหลายสายพันธุ์ รวมถึงปกป้องชุมชนชายฝั่งทะเลจากคลื่นมหาสมุทรและสภาพอากาศที่รุนแรง

บริเวณชายฝั่งของประเทศไทยมีป่าชายเลนประมาณ 1,900 ตารางกิโลเมตร ซึ่งป่าเหล่านี้ช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสามารถพบสิ่งมีชีวิตที่เป็นที่รู้จักทางวิทยาศาสตร์ได้ถึง 9%

ประเทศไทยสูญเสียพื้นที่ป่าชายเลนไปแล้ว 84% ซึ่งนับว่าสูงมากกว่าประเทศอื่น ๆ แต่อัตราการสูญเสียได้ชะลอตัวลงเนื่องจากมีการฟื้นฟูนับตั้งแต่สึนามิในปีพ.ศ. 2547 โดยแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (NESDP) ปีพ.ศ. 2560 – 2564 มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มพื้นที่ป่าทั่วประเทศจาก 33% เป็น 40%

ป่าชายเลนในจังหวัดเพชรบุรีครอบคลุมพื้นที่กว่า 14,839 ไร่ (24 ตารางกิโลเมตร) หรือ 17.27% โดย 42% ของพื้นที่ป่าเหล่านี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตบริเวณอ่าวไทยตอนบน

บริเวณชายฝั่งประกอบด้วยป่าชายเลน โคลน และหาดทรายที่มีก้นทะเลค่อนข้างตื้น (โดยเฉลี่ย 45 เมตร) ที่ได้รับสารอาหารและน้ำจืดจากแม่น้ำและคลองเพชรบุรี โดยมี 74 สายพันธุ์ของกลุ่มนกที่หากินตามแหล่งน้ำ รวมถึงสายพันธุ์ที่หายากที่จะดึงดูดนักดูนกต่าง ๆ

จังหวัดเพชรบุรีคือแหล่งผลิตมะนาว เกลือทะเล ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีชื่อเสียงด้านเปลือกหอย ชายฝั่งของที่นี่จึงมีศักยภาพที่แข็งแกร่งในการท่องเที่ยวเชิงนิเวศการเกษตรและการพัฒนาประมงชายฝั่ง

เกี่ยวกับสมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้

สมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้ (BCS) ร่วมก่อตั้งโดยดร.ชวัลวัฒน์ และคุณทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์ เพื่อเป็นชุมชนของคนที่ต้องการปกป้องและอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง (หรือบลูคาร์บอน) ที่ช่วยต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้มุ่งมั่นที่จะสร้างแรงบันดาลใจในการปฏิบัติการระดับโลก เพื่อเพิ่มศักยภาพของสภาพแวดล้ออมทางทะเลและชายฝั่ง และต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยการจัดกิจกรรมที่ช่วยให้มนุษย์และระบบนิเวศทางธรรมชาติสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล รวมถึงพัฒนาทักษะและสร้างศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศชายฝั่ง และการสร้างเครือข่ายพันธมิตรสำหรับบลูคาร์บอน (ชื่อ 'บลูคาร์บอน' หมายถึงระบบนิเวศ เช่นป่าชายเลน บึงเกลือ และทุ่งหญ้าทะเล ที่จะรวบรวมและเก็บกักคาร์บอนจากกิจกรรมของมนุษย์จากชั้นบรรยากาศ)

เกี่ยวกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประเทศไทย (UNDP)

UNDP มีความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับประชาชนทุกระดับเพื่อสนับนุนการสร้างประเทศให้สามารถต่อสู้กับวิกฤตการณ์ พร้อมขับเคลื่อนและสนับสนุนการเติบโตในด้านต่าง ๆ ที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคน UNDP มีเจ้าหน้าที่อยู่กว่า 170 ประเทศในการนำเสนอมุมมองระดับโลกและข้อมูลเชิงลึกระดับท้องถิ่นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างประเทศให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ visit our website

UNDP ประเทศไทยคือส่วนหนึ่งของทีมสหประชาชาติที่ทำงานสนับสนุนรัฐบาลและประชาชนในประเทศไทย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาประเทศและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

สำหรับท่านสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ:

คุณวรดนู นิมมิต (ทิมมี่/ทับทิม) T:309-081- 7799 E: [email protected]

คุณพันธมาศ เมืองรัตน์ (ตุ๊กตา) T.062-895-3636 [email protected]

คุณมลทิพย์ เจนธรรมพัฒน์ (แอ๊ง) T:095-952-3942 E: [email protected]

คุณพิชชาพร อยู่เลี้ยงพันธ์ (พลอย) T.0 87 404 5554 E: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO